ผู้เขียน หัวข้อ: ดูแลหลังจัดฟันอย่างไร ไม่ให้มีปัญหาตามมาในระยะยาว  (อ่าน 403 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 533
    • ดูรายละเอียด
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีปัญหาจนต้องจัดฟันและอยู่ในช่องระหว่างใส่เหล็ก แต่ก็กลัวว่าช่องปากจะมีปัญหาหลังจัดฟัน วันนี้จะมาแนะนำวิธีการดูแลหลังจัดฟันว่าควรทำอย่างไรถึงจะไม่มีปัญหาตามมาในระยะยาว ถ้าอยากรู้แล้วมาอ่านไปพร้อมกันเลยค่ะ

รวมวิธีดูแลหลังจัดฟันที่คุณควรรู้


1. แปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทาน

หลังทานอาหารควรแปรงฟันทุกครั้งอย่างน้อย 30 นาที เพราะทุกครั้งที่เราบดเคี้ยวจะมีเศษอาหารเล็ก ๆ ติดอยู่ตามซอกฟันและเหล็กจัดฟัน หากบ้วนปากด้วยน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียวก็ไม่อาจทำให้เศษอาหารหลุดออกได้ นอกจากนี้อย่าลืมแปรงฟันก่อนเข้านอนทุกครั้งนะคะ เพื่อป้องกันแบคทีเรียสะสมอยู่ในช่องปากระหว่างที่นอนหลับนั่นเองค่ะ

2. ทำความสะอาดช่องปากอย่างถูกวิธี

ด้วยการใช้ไหมขัดฟันขัดฟันทุกครั้งหลังแปรงฟัน แต่หากไม่สะดวกจริง ๆ แนะนำให้ใช้วันละครั้งก็ค่ะ ทั้งนี้ก็เพื่อกำจัดเศษอาหารที่ติดอยู่ตามซอกฟัน และซอกเหล็กไม่ให้หมักหมมในช่วงที่นอนหลับจนเกิดเหงือกอักเสบตามมา นอกจากนี้อย่าลืมใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ซึ่งจะช่วยป้องกันฟันผุได้เป็นอย่างดี รวมถึงใช้น้ำยาบ้วนที่มีฟลูออไรด์อย่างน้อยวันละ 1 ครั้งเพื่อป้องกันฟันผุ เพราะหากเกิดฟันผุระหว่างการติดตั้งเครื่องมือจัดฟันจะทำการรักษาได้ยากนั่นเองค่ะ


3. พบทันตแพทย์ตามนัดหมาย

แต่ในกรณีที่คุณจัดฟันใสที่ไม่ต้องเข้าพบทันตแพทย์เลย แนะนำให้มาพบทุก 6เดือน เพื่อตรวจปัญหาช่องปากเพิ่มเติมเพราะคนจัดฟันส่วนใหญ่จะเจอปัญหาเหงือกอักเสบบ่อยมาก อันเนื่องมาจากการแปรงฟันไม่สะอาดพอ ทั้งนี้ก็เพื่อให้ทันตแพทย์ขูดหินปูนเคลียร์ช่องปากเพื่อลดการสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคเหงือกอักเสบและฟันผุค่ะ


4. ทำอุปกรณ์ป้องกันการกระแทก (เมาท์การ์ด)

ในกรณีที่ผู้จัดฟันเล่นกีฬาเป็นประจำหรือเป็นนักกีฬา เพราะหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นในระหว่างที่มีอุปกรณ์จัดฟันอยู่ในปากนั้น อาจจะทำให้ช่องปากบาดเจ็บมากกว่าตอนที่ไม่มีเครื่องมือจัดฟันอยู่ในช่องปากได้อีกด้วยค่ะ


5. หลีกเลี่ยงอาหารที่เคี้ยวยาก

เพราะนอกจากจะติดอยู่ในช่องปากและทำความสะอาดยากแล้ว ยังมีผลทำให้เครื่องมือจัดฟันมีปัญหา เสื่อมไวกว่าเดิมได้อีกด้วยค่ะ ในกรณีที่ไม่มีทางเลือกมากนัก ก็ควรหั่นอาหารเหล่านี้ออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ก่อนรับประทานทุกครั้งนะคะ


หลังจัดฟันดูแลตัวเองอย่างไร ไม่ให้มีปัญหาช่องปากตามมา

หลังจัดฟันถือว่าเป็นช่วงที่สุขภาพช่องปากยังไม่คงที่ เพราะมีเครื่องมือจัดฟันที่คอยปรับการเคลื่อนตัวของฟันตลอดเวลา แม้ว่าเครื่องมือจัดฟันจะมีประโยชน์ในการรักษาปัญหาฟันก็ตาม แต่หากคนไข้ดูแลสุขภาพช่องปากไม่ถูกวิธีหรือละเลยการทำความสะอาดช่องปากตามที่ทันตแพทย์แนะนำมา อาจเสี่ยงต่อปัญหาช่องปากที่เกิดขึ้นง่ายกว่าเดิมอีกด้วยค่ะ วันนี้จะมาแนะนำดูแลช่องปากตัวเองอย่างไรไม่ให้มีปัญหาช่องปากตามมา ถ้าพร้อมแล้วมาอ่านด้วยกันค่ะ


แนะนำวิธีดูแลตัวเองหลังจัดฟันที่คนจัดฟันควรปฏิบัติ


1. เลือกรับประทานอาหารถนอมฟัน

รู้หรือไม่ว่าการรับประทานอาหารถนอมฟัน นอกจากจะช่วยบรรเทาอาการปวดฟันได้แล้ว ยังช่วยป้องกันไม่ให้เครื่องมือจัดฟันหลุดหรือเสื่อมไวกว่าอายุการใช้งานอีกด้วยนะคะ สำหรับอาหารที่เหมาะสำหรับคนจัดฟันจะต้องเป็นอาหารอ่อน เคี้ยวง่าย ยกตัวอย่างเช่น โจ๊ก ข้าวต้ม แกงจืดเต้าหู้ หากเป็นเนื้อสัตว์ที่มีความแข็งขึ้นมาหน่อยก็ควรหั่นแบ่งเป็นชิ้นเล็ก ๆ ในช่วงจัดฟันนี้แนะนำให้งดรับประทานอาหารเหนียวหรือแข็งออกไปก่อนนะคะ เพราะอาหารประเภทนี้จะทำให้เครื่องมือจัดฟันเสื่อมไวค่ะ ไม่ว่าจะเป็นน้ำแข็ง ข้าวเหนียว ซี่โครงหมู เนื้อทอด หมากฝรั่ง ฝรั่งดอง ข้าวโพดหวาน ฯลฯ นอกจากนี้ขอแนะนำให้รับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูงอย่าง นมวัว หรือน้ำเต้าหู้ด้วยนะคะ เพราะโปรตีนในอาหารเหล่านี้มีส่วนช่วยในการซ่อมแซมส่วนสึกหรอจากการจัดฟัน ช่วยให้อาการปวดฟันหายไวยิ่งขึ้น แต่ในช่วงแรก ๆ หากเผลอทานเข้าไปด้วยความเคยชินแล้วล่ะก็ ขอแนะนำให้ตามน้ำตามมาก ๆ หรือบ้วนปากด้วยน้ำสะอาดอย่างน้อย 30 นาทีก่อนแปรงฟัน ทั้งนี้คนไข้จะต้องหมั่นฝึกการเลือกรับประทานอาหารอ่อนให้เคยชินนะคะ เผื่อให้ผลลัพธ์การรักษาเป็นไปตามที่คุณหมอวางแผนไว้ จะได้ไม่ต้องมาจัดฟันอีกรอบให้เสียเวลานั่นเองค่ะ


2. แปรงฟันให้ถูกวิธี ถูกเวลา

สำหรับการแปรงฟันที่ดีต่อช่องปากคนจัดฟันจะต้องเพิ่มระยะเวลาในการแปรงให้บ่อยขึ้นและนานขึ้น เพราะเมื่อเราติดเครื่องมือจัดฟันเข้าไปในปากแล้วจะทำให้เศษอาหารติดตามเครื่องมือหรือซอกฟันง่ายกว่าคนทั่วไป ดังนั้นการทำความสะอาดที่ถี่ขึ้น นานขึ้นจะช่วยลดโอกาสที่มีเศษอาหารติดอยู่ตามซอกฟันให้น้อยลงด้วยค่ะ ทั้งนี้คุณหมอจะแนะนำให้คนไข้แปรงฟันด้วยแปรงสีฟันสำหรับคนจัดฟันโดยเฉพาะ ควบคู่กับการใช้ไหมขัดฟันหรือแปรงซอกฟันด้วยนะคะ ส่วนช่วงเวลาที่ควรแปรงฟันหลังมื้ออาหารนั้นจะต้องเลยมื้ออาหารไปอย่างน้อย 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง เนื่องจากช่องปากของเราหลังมื้ออาหารจะอ่อนแอเป็นพิเศษเพราะอาหารที่เราทานเข้าไปมีส่วนประกอบของกรดที่มีฤทธิ์ทำลายเคลือบฟัน แต่ด้วยกลไกตามธรรมชาติที่กระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำลายมากขึ้น เพื่อเอนไซม์ในน้ำลายช่วยปรับสมดุลของกรด – ด่างภายในช่องปาก ดังนั้นคนไข้จะต้องรอให้เอนไซม์ปรับสมดุลช่องปากอย่างน้อย 30 นาทีก่อนถึงค่อยแปรง เพราะถ้าใครเผลอแปรงหลังมื้ออาหารเมื่อไหร่อาจทำให้ฟันสึกง่ายยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ


3. แปรงฟันให้ถูกวิธี

เริ่มจากการเลือกแปรงสีฟันที่มีขนแปรงสำหรับคนจัดฟันโดยเฉพาะ ส่วนยาสีฟันที่ใช้นั้นสามารถใช้ยาสีฟันทั่วไปที่มีฟลูออไรด์ได้ค่ะ แต่ในปัจจุบันผู้ผลิตได้มีการพัฒนาและวางจำหน่ายยาสีฟันสำหรับคนจัดฟันโดยเฉพาะด้วยเช่นกัน บางสูตรอาจมีสรรพคุณลดบรรเทาอาการปวดฟันระหว่างจัดฟัน หรือบางสูตรอาจช่วยป้องกันเหล็กดัดดำได้ ทั้งนี้แนะนำให้ปรึกษาคุณหมอก่อนใช้ยาสีฟันสูตรพิเศษด้วยนะคะ เพราะบางทียาสีฟันบางสูตรอาจไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยบางคนค่ะ ส่วนวิธีการแปรงฟันสำหรับคนจัดฟันมีดังนี้ค่ะ

    วางแปรงลงบนเครื่องมือจัดฟันในแนวเฉียงก่อนที่จะขยับแปรง
    ขยับแปรงเป็นวงกลมเล็ก ๆ ประมาณ 10 รอบ เริ่มจากด้านบนลงด้านล่าง และด้านซ้ายไปด้านขวาหรืออาจเป็นด้านขวาไปด้านซ้ายตามความถนัดของคนไข้
    ขยับเข้าไปแปรงด้านในโดยวางแปรง 45 องศาลงบนขอบเหงือกและขยับแปรงเบา ๆ ด้วยการปัดจากขอบเหงือกออกไปยังปลายฟัน
    แปรงให้ขนแปรงโดนคอฟันเบา ๆ จนแปรงฟันครบทุกซี่
    จากนั้นแปรงลิ้นและเพดานปากเพื่อกำจัดแบคทีเรียออกจากช่องปากให้หมด
    กรณีที่มีเศษอาหารติดอยู่ แนะนำให้ใช้แปรงซอกฟันหรือแปรงกระจุก (End tuft brush) แปรงซ้ำได้เลยค่ะ โดยปัดแปรงไปในลักษณะเดียวกับการแปรงฟัน แล้วตบท้ายด้วยไหมขัดฟันอีกทีค่ะ


4. ไม่ละเลยปัญหาช่องปาก

ทั้งปัญหาเครื่องมือหลุดลงคอหรือมีแผลในช่องปากก็ตาม แม้ว่าเครื่องมือหลุดลงคอจะเป็นปัญหาที่พบบ่อยและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายเพราะเครื่องมือจัดฟันถูกออกแบบมาให้ปลอดภัยต่อร่างกาย แต่หากอุปกรณ์ใดอุปกรณ์หนึ่งหลุดหายไป ย่อมมีผลต่อการใช้งานทั้งสิ้น หากปล่อยไว้เป็นเวลานานอาจทำให้ทิศทางการเคลื่อนตัวของฟันผิดไปจากแผนการรักษาของคุณหมอได้ด้วยนะคะ หรือแม้แต่ปัญหาเหล็กทิ่มปากที่ทำให้เกิดแผลในช่องปากอยู่บ่อยครั้ง แม้ว่าจะใช้ขี้ผึ้งทาเหล็กเพื่อป้องกันเหล็กทิ่มได้ก็ตาม แต่หากไม่ยอมรักษาแผลในช่องปาก อาจเกิดเป็นแผลในช่องปากเรื้อรังจนกลายเป็นปัญหาสุขภาพในระยะยาวได้ด้วยค่ะ


5. มาตามนัดทุกครั้ง

สิ่งสำคัญในการดูแลตัวเองหลังจากจัดฟันไปแล้วนั่นคือความสม่ำเสมอในการพบคุณหมอ ในกรณีที่คนไข้จัดฟันใสก็อาจไม่ต้องพบคุณหมอบ่อยนัก เนื่องจากเครื่องมือจัดฟันใสเป็นเครื่องมือที่สามารถถอดออกและเปลี่ยนเครื่องมือได้ด้วยตัวเอง แต่หากคนไข้จัดฟันเหล็กแล้วล่ะก็ จะต้องมาพบคุณหมอทุกครั้งตามนัดหมายนะคะ เนื่องจากเครื่องมือจัดฟันเหล็กจะอยู่ในช่องปากตลอดเวลาแม้กระทั่งเวลารับประทานอาหาร ทำให้ตัวเครื่องมือได้รับแรงกระทบจากการบดเคี้ยวอาหาร ดังนั้นหากคนไข้ละเลยการพบคุณหมอ ไม่ยอมมาตามนัดหมายเป็นเวลานาน อาจทำให้ตัวเครื่องมือเสื่อมไวและก่อให้เกิดปัญหาตามมาได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเหล็กบาดเหงือก เครื่องมือจัดฟันหลุดออกจากจุดเดิม หรือแม้แต่เผลอกลืนเหล็กจัดฟันลงไปก็ได้ด้วยเช่นกันค่ะ



ดูแลหลังจัดฟันอย่างไร ไม่ให้มีปัญหาตามมาในระยะยาว อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/