ผู้เขียน หัวข้อ: Mitsubishi Triton 2024: Mitsubishi Triton (Gen 6) เปิดตัวที่ญี่ปุ่นครั้งแรกในรอบ  (อ่าน 356 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 620
    • ดูรายละเอียด
Mitsubishi Triton 2024: Mitsubishi Triton (Gen 6) เปิดตัวที่ญี่ปุ่นครั้งแรกในรอบ 12 ปี

Mitsubishi Triton 2024 ใหม่ ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี ถูกผลิตและนำเข้าจากโรงงานที่ประเทศไทยทั้งคัน มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย เคาะราคาจำหน่ายเริ่มต้น 4,980,800 เยน หรือประมาณ 1.2 ล้านบาท

Mitsubishi Triton เจเนอเรชันที่ 6 ถูกนำไปวางจำหน่ายในประเทศบ้านเกิดที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี โดยมีให้เลือกเฉพาะตัวถังแบบ Double Cab 4 ประตู เน้นจับกลุ่มลูกค้าเชิงไลฟ์สไตล์เป็นหลัก แบ่งออกเป็น 2 รุ่นย่อย ได้แก่ GLS และ GSR

เวอร์ชันญี่ปุ่นทั้ง 2 รุ่นย่อย ถูกติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ รหัส 4N16 ความจุ 2.4 ลิตร กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 470 นิวตัน-เมตร ซึ่งเป็นบล็อกเดียวกับ Triton Athlete ที่จะเปิดตัวในประเทศไทยช่วงต้นปี 2567 นี้ โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 11.3 กม./ลิตร ตามมาตรฐาน WLTC

ขณะที่ระบบส่งกำลังมีเฉพาะเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Super Select 4WD-Ⅱ และระบบล็อกเฟืองท้ายเป็นมาตรฐานเหมือนกันทั้งคู่

ทั้ง 2 รุ่นย่อยถูกติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานมาให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าแบบ LED, จอเรือนไมล์แบบ LCD ขนาด 7 นิ้ว, พวงมาลัยหุ้มวัสดุหนัง, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 2 โซน, หน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay / Android Auto, กล้องมองภาพรอบคันพร้อมเซ็นเซอร์กะระยะ, ระบบช่วยเหลือการขับขี่ e-Assist, ประตูกระบะท้ายพร้อมระบบกุญแจล็อก และล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว เป็นต้น

ระบบช่วยเหลือการขับขี่ e-Assist ที่ติดตั้งลงใน Mitsubishi Triton เวอร์ชันญี่ปุ่น ประกอบด้วยฟังกชันต่างๆ เช่น ระบบป้องกันการชนด้านหน้า (FCM) พร้อมตรวจจับคนเดินถนนและผู้ใช้จักรยาน, ระบบเตือนรถออกนอกเลน (LDW), ระบบป้องกันรถออกนอกเลน (LDP), ระบบเตือนมุมอับสายตา (BSW), ระบบช่วยเปลี่ยนเลน (LCA), ระบบไฟสูงอัตโนมัติ (AHB), ระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ (ACC) และระบบอ่านป้ายจราจร (TSR) เป็นต้น

ปัจจุบันมิตซูบิชิมอเตอร์สยังไม่มีแผนทำตลาด Triton รุ่น 2 ประตูในประเทศญี่ปุ่นขณะนี้ เพียงแต่ระบุว่าหากมีความต้องการจากลูกค้าชาวญี่ปุ่น ก็อาจมีการพิจารณาทำตลาดในอนาคตเช่นกัน