ผู้เขียน หัวข้อ: ศาลหลักเมือง ทั่วไทย ทำบุญ ไหว้ขอพร เสาหลักเมือง เสริมชัย เสริมสิริมงคล  (อ่าน 255 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 851
    • ดูรายละเอียด
ศาลหลักเมือง ทั่วไทย ทำบุญ ไหว้ขอพร เสาหลักเมือง เสริมชัย เสริมสิริมงคล

เคยได้ยินกันไหมว่าพอเริ่มปีใหม่แล้ว ให้ไปสักการะ ศาลหลักเมือง ตามจังหวัดที่อาศัยอยู่เพื่อความเป็นสิริมงคล จะเป็นการเสริมหลักชัยให้ชีวิต อีกทั้งยังเชื่อกันอีกว่าจะช่วยให้มีการงานมั่นคง ขออะไรก็จะสมหวังดั่งที่ปรารถนา ถ้าอย่างงั้น จะรอช้าไม่ได้แล้ว เลยอัปเดต 23 ศาลหลักเมือง สวยๆ ทั่วไทย ไหว้ขอพร เสริมสิริมงคล มาให้ทุกคนแล้วค่า

ศาลหลักเมือง ทั่วไทย


1. ศาลหลักเมืองกรุงเทพ

     ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร ศาลที่สร้างขึ้นมาพร้อมกับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานีในสมัยรัชกาลที่ 1 เลยทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และเก่าแก่อยู่คู่กรุงเทพฯ มาอย่างยาวนานนั่นเองค่ะ ซึ่งจุดสำคัญของศาลหลักเมืองนี้ก็คือบริเวณของ เสาหลักเมือง ซึ่งมี 2 เสาด้วยกัน สาเหตุที่มีสองเสาก็เพราะเสาเดิมมีการชำรุดลงอย่างมากในสมัยรัชกาลที่ 4 เลยโปรดเกล้าฯ ให้ทำเสาขึ้นใหม่ แน่นอนว่าที่นี่ก็เป็นเหมือนสถานที่ท่องเที่ยวหลักของเมืองกรุง มีนักท่องเที่ยวเดินทางมากราบไหว้มากมาย เพื่ออธิษฐานขอพระ เพราะมีคติความเชื่อกันว่า ถ้าได้มากราบไหว้ศาลหลักเมืองนั้น จะเป็นหารเสริมหลักชัยให้ชีวิต ให้มีหน้าที่การงานที่มั่นคงดังหลักชัย และขอพรให้สมหวังค่ะ

    ที่อยู่ : ตรงข้ามพระบรมมหาราชวัง ถนนหลักเมือง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ
    เปิดให้เข้าชม : 06.30-18.30 น. (เปิดให้เข้าชมตลอดคืนในเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ และเทศกาลตรุษจีน)
    โทร : -


2. อุทยานมังกรสวรรค์ ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง

     อุทยานมังกรสวรรค์ ที่ตั้งของ ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง สุพรรณบุรี เมื่อก่อนนั้นศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี จะเป็นเพียงแค่ศาลไม้ทรงไทย มีเทวรูปพระอิศวร และพระนารายณ์สวมหมวกเติ๊ก สลักด้วยหินสีเขียว แต่ในปัจจุบันได้สร้างศาลให้เป็นรูปวิหารและเก๋งจีน สวยงดงามมากทีเดียวค่ะ ซึ่ง เจ้าพ่อหลักเมือง นั้น ก็จะเป็นประติมากรรมสลักหินนูนต่ำ ในพุทธศาสนาลัทธิมหายาน มีพระนามว่า พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร หรือที่เรียกกันว่า พระนารายณ์สี่กร นั่นเอง เป็นที่สักการบูชาทั้งชาวไทย และชาวจีน อย่างมาก คือถ้ามาเที่ยวเมืองสุพรรณ ก็ต้องไม่พลาดที่จะไปสักการะกันค่ะ รวมถึงยังมีที่เที่ยวใกล้ๆ อย่าง พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร ให้ได้เดินเที่ยวชมกันด้วยค่ะ

    ที่อยู่ : 491/1 ไร่ฝ้าย ถนนไร่ฝ้าย ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี
    เปิดให้เข้าชม : 10.00-16.00 น.
    โทร : 0-3552-6212


3. ศาลหลักเมืองประจวบคีรีขันธ์

     ศาลหลักเมือง ประจวบคีรีขันธ์ เป็นศาลหลักเมืองที่ความสวยงามอย่างมากแห่งหนึ่งของไทยเลยค่ะ เพราะสร้างในรูปแบบของศิลปะลพบุรี องค์หลักเมือง มีการแกะสลักลวดลายประณีตอย่างสวยงาม สร้างขึ้นมาในสมัย ร.ต.อำนวย ไทยานนท์ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีพิธีเปิดไปเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2537 ค่ะ ซึ่ง องค์หลักเมือง หรือ "จตุโชค" นั้น จะมีลักษณะพิเศษคือ มีสี่เศียร สี่พักตร์ แกะสลักลายไทย ศิลปะแบบศรีวิชัยทั้งองค์ บอกเลยว่างดงามหาชมได้ยากจริงๆ ค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลประจวบคีรีขันธ์ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-19.00 น.
    โทร : -
    เว็บไซต์ : -


4. เสาหลักเมืองน่าน

     เสาหลักเมืองน่าน เดิมจะเรียกกันว่า เสามิ่งเมือง เป็นไม้สักทองขนาดใหญ่ มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 3 ฟุต สูง 3 เมตร ลักษณะเป็นเสาทรงกลม ส่วนหัวเสาเกลาเป็นดอกบัวตูม ฝังไว้กับพื้นที่ดินโดยตรง ซึ่งจะไม่มีบริเวณของศาลหรืออาคารครอบเอาไว้ สันนิษฐานกันว่าอาจจะสร้างขึ้นในสมัยเจ้าอัตถวรปัญโญ เป็นเจ้าผู้ครองนครน่าน เพราะก่อนหน้านั้นเมืองน่าน ไม่มีการสร้างเสาหลักเมืองในประวัติศาสตร์เลยค่ะ

    ที่อยู่ : 42 ถนนสุริยพงษ์ ตำบลผาสิงห์ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน
    เปิดให้เข้าชม : 06.00-18.00 น.
    โทร : -
    เว็บไซต์ : -


5. ศาลหลักเมืองบุรีรัมย์

     ที่ ศาลหลักเมืองบุรีรัมย์ แห่งนี้ เมื่อก่อนนั้นจะมีความเชื่อกันว่า เคยเป็นจุดพักรบของรัชกาลที่ 1 และยังเป็นจุดกำเนิดของเมืองบุรีรัมย์อีกด้วย เลยทำให้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ที่เคารพสักการะบูชาของชาวบุรีรัมย์นั่นเอง โดยสาหลักเมืองบุรีรัมย์ นั้นจะมี 2 ต้นด้วยกัน ว่ากันว่า เสาต้นที่ 1 (ต้นเอียง) เป็นเสาหลักเมืองที่ตั้งขึ้น เมื่อครั้งสร้างเมือง ส่วนเสาหลักเมืองต้นที่ 2 นั้น น่าจะเป็นเสาหลักเมืองที่ตั้งขึ้น เมื่อมีฐานะเป็น จังหวัดบุรีรัมย์ ค่ะ รวมไปถึง ข้างๆ ศาล จะมี ศาลเจ้าจีน ให้ได้สักการะขอพรด้วยเช่นกันค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลในเมือง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-20.00 น.
    โทร : -
    เว็บไซต์ : -


6. ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช

     ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช จะมีอาคารถึง 5 ด้วยกัน โดยหลังกลางนั้นเป็นที่ประดิษฐานหลักเมือง ที่ออกแบบมาให้มีลักษณะคล้ายกับ ศิลปะศรีวิชัย ที่เรียกว่า ทรงเหมชาลา ส่วนอาคารเล็กอีกสี่หลัง ก็เปรียบเหมือนเป็นบริวารสี่ทิศ เรียกว่า ศาลาจตุโลกเทพ มี พระเสื้อเมือง ศาลทรงเมือง ศาลพระพรหมเมือง และศาลพรบันดาลเมือง ส่วนองค์เสาหลักเมืองนั้น จะทำด้วยไม้ตะเคียนทอง ที่ได้มาจากภู 4 เขายอดเหลืองในนครศรีธรรมราชนั่นเองค่ะ อีกทั้งยังมีการแกะสลัก มาจากความเชื่อในพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน ซึ่งเคยมีอิทธิพลต่อศิลปกรรมในภาคใต้ และ นครศรีธรรมราช มาตั้งแต่ในสมัยโบราณแล้วค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลคลัง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.
    โทร : -
    เว็บไซต์ : -


7. ศาลหลักเมืองตราด

     มากันที่ ศาลหลักเมืองตราด กันบ้าง ที่นี่นับว่ามีเอกลักษณ์ของศาลหลักเมืองที่แตกต่างจากศาลหลักเมืองอื่นๆ อย่างมากเลยค่ะ ก็คือกล่าวคือสร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบเก๋งจีนนั่นเอง โดยสมเด็จพระเจ้าตากสินโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นตามความเชื่อแบบจีนค่ะ รวมถึงยังเป็นเหมือนศูนย์กลางเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีนอีกด้วย ในทุกๆ วันขึ้น 6 ค่ำ เดือน 6 จะมีการจัดงาน วันงานพลีเมือง ที่ชาวจีนเรียกกันว่า วันเซี่ยกงแซยิด หมายถึงวันเกิดของเจ้าพ่อหลักเมืองนั่นเองค่ะ

    ที่อยู่ : เลขที่ 1 ถนนหลักเมือง ตำบลบางพระ อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด
    เปิดให้เข้าชม : 07.00-17.00 น.
    โทร : -
    เว็บไซต์ : -


8. ศาลหลักเมืองสุรินทร์

     ศาลหลักเมืองสุรินทร์ เป็นศาลหลักเมืองสวยๆ ที่มีการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบเขมรและศิลปะแบบไทยเข้าไว้ด้วยกันค่ะ เกิดเป็นศาลหลักเมืองที่มีความสวยงดงามและยิ่งใหญ่อลังการแห่งนี้ อีกทั้งในอดีตยังเคยมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นคือมีรอยแยกบนพื้นถนน ทำให้มีการขุดลงไปพบพระพุทธรูปนาคปรกและวัตถุโบราณต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น พระเครื่องดินเผา กำไลโบราณ และ เครื่องปั้นภาชนะดินเผา ที่นำไปบูชาภายในศาลหลักเมืองอีกด้วยค่ะ

    ที่อยู่ : ถนนเทศบาล3 ตำบลในเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์
    เปิดให้เข้าชม : 08.30-16.30 น.
    โทร : -
    เว็บไซต์ : -


9. ศาลหลักเมืองอุดรธานี

     ศาลหลักเมืองอุดรธานี สร้างขึ้นมาเมื่อปี พ.ศ.2502 และได้มีการอัญเชิญดวงพระวิญญาณของ พลตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ผู้ที่ทรงก่อตั้งเมืองอุดรธานี มาสถิตย์ ณ เสาหลักเมืองนี้ด้วยค่ะ อีกทั้งยังมีการบรรจุแผ่นยันต์และแก้วแหวนเงินทองต่างๆ จำนวนมากไว้ใต้ฐาน เพื่อเป็นสิริมงคลอีกด้วยค่ะ รวมไปถึงมี ท้าวเวสสุวรรณ หลวงพ่อพระพุทธโพธิ์ทอง ให้เราได้สักการะกันด้วยค่ะ

    ที่อยู่ : อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี
    เปิดให้เข้าชม : 06.00-20.00 น.
    โทร : -
    เว็บไซต์ : -


10. ศาลหลักเมืองอยุธยา

     ศาลหลักเมืองอยุธยา เมื่อก่อนนั้นตั้งอยู่ใกล้กับศาลพระกาฬและสี่แยกตะแลงแกง จนมาถึงสมัยสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี พ.ศ. 2525 ทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยาก็ได้มีการสร้างศาลหลักเมืองขึ้นมาใหม่ โดยสร้างเป็นรูปแบบของอาคารมณฑปจตุรมุข ส่วนองค์เสาหลักเมืองนั้น จะทำจากไม้มงคลชัยพฤกษ์ ยอดเสาแกะสลักเป็นรูปดอกบัวแก้วซ้อนกัน 7 ชั้นด้วยกัน เป็นแหล่งศักดิ์ของเมืองเก่าที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
    เปิดให้เข้าชม : 09.00-17.00 น.
    โทร : -
    เว็บไซต์ : -


11. ศาลหลักเมืองยะลา

     ศาลหลักเมืองยะลา ศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองยะลาแห่งนี้ เป็นพิกัดที่มีทั้งความร่มรื่นและความพิเศษ เพราะมีความสวยงามอย่างมาก โดยตัวเสาหลักเมืองยะลานั้น จะมีการแกะสลักลวดลายแบบไทย ส่วนของยอดเสาหลักเมืองจะแกะสลักเป็นรูปพระพรหม 4 หน้า สร้างขึ้นมาจากแก่นไม้ชัยพฤกษ์นั่นเองค่ะ อีกทั้งที่นี่ยังเป็นสถานที่ไว้สำหรับจัดงานฉลองสมโภชของศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ซึ่งเป็นงานใหญ่ของจังหวัดอีกด้วยค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลสะเตง อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.30 น.
    โทร : -
    เว็บไซต์ : -

12. ศาลหลักเมืองกาญจนบุรี

     ศาลหลักเมืองกาญจนบุรี แห่งนี้ สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2503 เป็นรูปทรงของอาคารจัตุรมุขหลังคาทรงไทย ภายในประดิษฐานหลักเมือง เสาหัวเม็ดทรงมัน ส่วนด้านหน้าก็มีศิลาจารึกและจารึกไม้สักระบุวันเดือนปีที่สร้างเมืองขึ้นมา อีกทั้งยังมีการจัดงานไหว้ศาลหลักเมืองขึ้นเป็นประจำทุกปี ในวันขึ้น 6 ค่ำ เดือน 6 อีกด้วยค่ะ ใครที่มาเที่ยวกาญจนบุรี อย่าลืมแวะไปสักการะกราบไหว้ขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคลกันนะคะ

    ที่อยู่ : ตำบลปากแพรก อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
    เปิดให้เข้าชม : 05.00-20.00 น.
    โทร : -
    เว็บไซต์ : -


13. ศาลหลักเมืองขอนแก่น

     ศาลหลักเมืองขอนแก่น นี้ จะโดเด่นด้วยอาคารศิลปะและสถาปัตยกรรมไทยแบบประยุกต์ มีรูปทรงและส่วนประกอบของงานศิลป์ที่เป็นการอนุรักษ์งานสถาปัตยกรรมสำคัญของท้องถิ่นอีสานเอาไว้ อีกทั้งยังมี เสาเทวดาฟ้าดิน สีแดงที่เปรียบเหมือนสถานที่รับราชโองการจากสวรรค์มายังโลกมนุษย์ของเง็กเซียนฮ่องเต้ให้เราได้ไปสักการะตามความเชื่อของชาวจีนกันอีกด้วยค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลในเมือง อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น
    เปิดให้เข้าชม : สามารถเข้าชมได้ตามเวลาเปิดปิดของสถานที่
    โทร : -
    เว็บไซต์ : -


14. ศาลหลักเมืองราชบุรี

     ศาลหลักเมืองราชบุรี ตั้งขึ้นมาครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 2 และได้มีการสร้าง โยกย้ายไปหลายที่หลายแห่งด้วยกันค่ะ ซึ่งในสถานที่ปัจจุบันนั้นยังคงอยู่ในบริเวณของกำแพงเมืองเก่าค่ะ และมีการออกแบบสร้างศาลขึ้นมาใหม่ ขึ้นในปี พ.ศ.2527 ส่วนภายในศาลก็จะมีทั้ง พระพิฆเนศ รูปปั้นช้าง ที่คนนิยมมาปิดทองไหว้ขอพรกันด้วยค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลพงสวาย อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี
    เปิดให้เข้าชม : 06.00-19.00 น.
    โทร : -
    เว็บไซต์ : -

15. ศาลหลักเมืองนครราชสีมา

     ศาลหลักเมืองนครราชสีมา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองโคราช สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ลักษณะจะเป็นศาลเจ้าแบบจีน โดยช่วงที่มีงานบุญงานบวชต่างๆ ก็จะมีนาคมาแห่รอบเมืองและมาไหว้ศาลหลักเมืองแห่งนี้กันค่ะ อีกทั้งกรมศิลปากรยังขึ้นทะเบียนให้ศาลแห่งนี้เป็นโบราณสถานด้วย ภายในจะตกแต่งด้วยประติมากรรมนูนต่ำ รวมไปถึงมีการบอกเล่าเรื่องราวของเมืองโคราชในสมัยคุณหญิงโมอีกด้วยค่ะ

    ที่อยู่ : 352 ถนนจอมพล ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา
    เปิดให้เข้าชม : สามารถเข้าชมได้ตามเวลาเปิดปิดของสถานที่
    โทร : -
    เว็บไซต์ : -


16. ศาลหลักเมืองนครสวรรค์

     ศาลหลักเมืองจังหวัดนครสวรรค์ ก่อสร้างขึ้นในสมัยของ นายวิทยา เกษรเสาวภาค เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ โดยอาคารศาลและหลักเมืองออกแบบโดยกรมศิลปากรค่ะ หลักเมือง นั้น จะสร้างด้วยไม้ราชพฤกษ์ ซึ่งได้มีพิธีการยกหลักเมืองขึ้นประดิษฐาน เมื่อวันที่ 4 มกราคม ปีพ.ศ.2517 อีกทั้งในทุกๆ ปี ก็จะมีการจัดงานสมโภชศาลหลักเมืองนครสวรรค์อย่างยิ่งใหญ่ เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบด้วยค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.
    โทร : -
    เว็บไซต์ : -


17. ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา

     ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา แห่งนี้เป็นโบราณสถานในสมัยรัตนโกสินทร์ ลักษณะเป็นศาลเจ้าแบบเก๋งจีน สร้างขึ้นในสมัยพระยาวิเชียรคีรี เป็นผู้สำเร็จราชการเมืองสงขลาค่ะ โดยศาลหลักเมืองนี้ จะสร้างตามคติแบบไทย และมี เจ้าพ่อหลักเมือง (เซ่ง ห๋อง เหล่า เอี้ย) ที่เป็นเทพคุ้มครองเมือง ตามคติแบบจีนค่ะ ทำให้ศาลหลักเมืองสงขลานี้ เป็นศูนย์รวมความศรัทธาของทั้งชาวจีนและชาวไทยที่อยู่ภายในศาลเดียวกันนั่นเองค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา
    เปิดให้เข้าชม : 07.00-17.00 น.
    โทร : -
    เว็บไซต์ : -


18. ศาลหลักเมืองร้อยเอ็ด

     ศาลหลักเมืองร้อยเอ็ด เป็นศาลหลักเมืองที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองที่ชาวร้อยเอ็ดเคารพนับถือกันมาอย่างยาวนานแล้วค่ะ โดยมีความเชื่อกันว่าเจ้าพ่อนั้นจะช่วยดลบันดาลให้ชาวเมืองมีความสุข คิดสิ่งใดก็สมปรารถนานั่นเองค่ะ รวมถึงมีพระพุทธรูปปางลีลาขนาดใหญ่ กลางสวนดอกไม้ มีพานรัฐธรรมนูญ นาฬิกาดอกไม้ ภูพลาญชัย ที่เป็นลักษณะของสวนสัตว์ น้ำตกจำลอง สนามเด็กเล่น นกชนิดต่างๆ และสวนสุขภาพ ที่เป็นสวนออกกำลังกาย เพื่อให้ชาวร้อยเอ็ดและนักท่องเที่ยวได้มาพักผ่อนและออกกำลังกายกันนั่นเองค่ะ

    ที่อยู่ : 117 ถนนสุริยเดชบำรุง ตำบลในเมือง อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.
    โทร : -
    เว็บไซต์ : -


19. ศาลหลักเมืองสุโขทัย

     ศาลหลักเมืองสุโขทัย เป็นโบราณสถานที่น่าจะเป็นหลักเมืองสุโขทัยนั่นเองค่ะ เพราะสันนิษฐานว่าปรากฏอยู่ในพระราชนิพนธ์เที่ยวเมืองพระร่วง ซึ่งศาลหลักเมืองนี้จะตั้งอยู่เดี่ยวๆ มีลักษณะเป็นฐานอาคารรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสยกพื้นสูงขึ้นมาค่ะ โดยมีบันไดทางขึ้นอยู่ที่ด้านทิศตะวันออก  มีฐานบัวก่อด้วยอิฐรองรับเสาแปดเหลี่ยมทำจากศิลาแลงด้านบน เมื่อก่อนนั้นน่าจะมีเครื่องด้านบนที่ทำจากไม้และหลังคามุงกระเบื้องด้วยเหมือนกัน แต่ในปัจจุบันนั้นได้ชำรุดหายไปแล้วนั่นเองค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย
    เปิดให้เข้าชม : 06.00-21.00 น.
    โทร : -
    เว็บไซต์ : -


20. ศาลหลักเมืองสมุทรสงคราม

     ศาลหลักเมืองสมุทรสงคราม เป็นศาลที่มีสถาปัตยกรรมแบบไทย มีมณฑปจตุรมุขทรงไทย ก่ออิฐฉาบปูนทาสีเหลืองทองทั้งหลัง หลังคานั้นจะซ้อนสองชั้น มียอดปรางค์ ซึ่งส่วนของยอดปรางค์นั้น จะประดับฝักเพกา (ลำภุขัน) เอาไว้ คล้ายกับวชิราวุธ ที่เป็นอาวุธของพระอินทร์นั่นเองค่ะ ส่วนเสาหลักเมือง ลักษณะเป็นเสากลมทำจากไม้มงคลชัยพฤกษ์ ฐานจะแกะสลักเป็นกลีบดอกบัว และหัวเสาจะแกะสลักเป็นดอกบัวค่ะ

    ที่อยู่ : ถนนเอกชัย ตำบลแม่กลอง อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม
    เปิดให้เข้าชม : 08.30-17.00 น.
    โทร : -
    เว็บไซต์ : -


21. ศาลหลักเมืองพะเยา

     ศาลหลักเมืองพะเยา ลักษณะจะเป็นศาลาจตุรมุขทรงไทย ที่มีประตูเข้า-ออกสี่ด้านด้วยกัน ส่วนยอดหลังคานั้นจะเป็นยอดแบบปราสาท ส่วนหลังคาจะทำเป็นซ้อนกันสองชั้นขึ้นไป และตัวของ เสาหลักเมืองนั้นก็ทำมาจากไม้มงคล โดยยอดแกะสลักทำเป็นรูปดอกบัวตูมอย่างสวยงาม ซึ่งสร้างขึ้นมาครั้งแรก เมื่อประมาณปีพ.ศ. 2520  แต่ก็สร้างไม่สำเร็จ และมีการย้ายสถานที่สร้างศาลหลักเมืองมาหลายครั้งด้วยกัน จนผ่านมา 9 ปี ถึงจะมีการก่อสร้างศาลหลักเมืองจังหวัดพะเยาอีกครั้งในปีพ.ศ. 2528  และสร้างเสร็จในปีพ.ศ.2530 ค่ะ

    ที่อยู่ : อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา
    เปิดให้เข้าชม : สามารถเข้าชมได้ตามเวลาเปิดปิดของสถานที่
    โทร : -
    เว็บไซต์ : -


22. ศาลหลักเมืองพิษณุโลก

     ศาลหลักเมืองพิษณุโลก นี้ สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 8 เมษายน ปี พ.ศ.2540 โดยมาจากความคิดในการสร้าง ศาลหลักเมืองจากคำบอกเล่าว่า จังหวัดพิษณุโลก นั้น มีเสาหลักเมืองเป็นลักษณะของศิลาจารึกเดิมที่ฝังอยู่ใต้ดินริมแม่น้ำน่าน บริเวณหัวกำแพงหักหรือกำแพงขาดในกรมทหาร ซึ่งอยู่ห่างจากพระราชวังจันทน์ไม่ไกลมากค่ะ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเมืองพิษณุโลก ที่ไม่ว่าใครไปเยือนก็ต้องไปกราบสักการะไหว้ขอพรกันนั่นเอง

    ที่อยู่ : ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก
    เปิดให้เข้าชม : 06.00-18.00 น.
    โทร : -
    เว็บไซต์ : -


23. ศาลหลักเมืองจันทบุรี

     ศาลหลักเมืองจันทบุรี นี้ ว่ากันว่า สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงสร้างขึ้นเมื่อพระองค์ได้เสด็จเข้ามายังเมืองจันทบุรี เพราะในหนังสือพระราชประวัติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชกล่าวไว้ว่าพระองค์ได้มาเมืองจันทบุรี เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2310 นั่นเองค่ะ อาคารเป็นทรงไทยแบบจัตุรมุข ก่ออิฐถือปูน มีช่อฟ้าใบระกา และมีปรางค์ที่ด้านบนตกแต่งอย่างสวยงาม

    ที่อยู่ : ตำบลวัดใหม่ อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี
    เปิดให้เข้าชม : 05.30-20.00 น.
    โทร : -
    เว็บไซต์ : -