แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 57
1
ถ้าเด็กไม่สวมใส่เครื่องมือจัดฟันเด็ก EF LINE จะส่งผลอย่างไรบ้าง
 
การจัดฟันในเด็ก ถือว่าเป็นการรักษาอย่างหนึ่งทางทันตกรรมที่มีประสิทธิภาพมาก ในแง่ของการแก้ไขปัญหาฟันของเด็ก ซึ่งปัจจุบันนี้มีเด็กจำนวนมากที่เป็นโรคฟันผุ บางรายพบเด็กเริ่มฟันผุตั้งแต่อายุเพียง 9 เดือน เพราะขาดการดูแลเอาใจใส่หรือรักษาความสะอาดฟันของเด็กที่ผิดวิธี รวมไปถึงการมีความเชื่อผิดๆของพ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนที่คิดว่า เมื่อเด็กโตพอรู้เรื่องแล้วค่อยสอนให้แปรงฟัน จนทำให้กว่าเด็กจะเริ่มแปรงฟันเองได้ก็ประมาณ 3-5 ขวบแล้ว พอฟันผุ เด็กก็รับประทานอาหารได้น้อย เพราะไม่สามารถบดเคี้ยวอาหารได้ดี

ทำให้ได้รับสารอาหารที่ไม่ครบถ้วน ซึ่งส่งผลต่อพัฒนาการของเด็ก ดังนั้น ถ้าหากปล่อยไว้นาน เด็กจะเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟัน ซึ่งฟันถือเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งที่สำคัญต่อการใช้ชีวิตประจำวันและฟันก็ต้องอยู่กับเด็กไปตลอดชีวิต ถ้าเด็กมีปัญหาฟัน พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่พาเด็กเข้ามารับการรักษา หรือถ้าหากเด็กมีปัญหาเรื่องของรูปร่างของฟัน ก็ควรพาเด็กเข้าพบทันตแพทย์เพื่อเข้ารับการจัดฟัน

เพราะในปัจจุบัน เด็กสามารถเข้ารับการจัดฟันได้ตั้งแต่อายุ 4 ปี ซึ่งการจัดฟันในเด็ก ด้วยการใช้เครื่องมือ EF LINE นั้น นอกจากจะช่วยแก้ไขปัญหาฟันในเด็กแล้ว ยังสามารถช่วยในเรื่องของความผิดปกติขิงกล้ามเนื้อบนใบหน้าเด็กอีกด้วย
 
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อพ่อแม่ผู้ปกครองตัดสินพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็กด้วยการใช้เครื่องมือ EF LINEแล้ว สิ่งที่สำคัญก็คือ การดูแลรักษาความสะอาด วิธีการปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของทันตแพทย์ระหว่างการจัดฟัน ซึ่งเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ผู้ปกครองที่จะต้องคอยแนะนำดูแลและสอนให้เด็กรู้จักดูแลเรื่องของความสะอาดของฟัน โดยเฉพาะในเรื่องของการสวมใส่เครื่องมือการจัดฟัน


ในข้อนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะ  เด็กจะต้องสวมใส่เครื่องมือการจัดฟัน EF LINE ตลอดทั้งวันแม้ขณะนอนหลับก็ต้องสวมใส่ ซึ่งคำถามที่หลายคนสงสัยว่า ถ้าหากเด็กไม่สวมใส่เครื่องมือการจัดฟัน EF LINE จะส่งผลอย่างไรต่อฟันของเด็ก ซึ่งวันนี้ทางคลินิกของเราจะมาพูดถึงเรื่องของการสวมใส่เครื่องมือ EF LINE ว่ามีผลอย่างไรต่อฟันของลูก ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า สิ่งสำคัญที่สุดในการให้บุตรหลานของท่านใส่ EF Line คือ บุตรหลานของท่านต้องมีอายุ 4 ปี ขึ้นไป แต่ถ้าจะให้ได้ผลดีและมีประสิทธิภาพสูงที่สุด


ในการใช้เครื่องมือ EF LINE ควรใช้กับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 14 ปี เพราะเด็กในวัยนี้ยังให้ความร่วมมือกับทันตแพทย์ในการรักษาได้ไม่ดีเท่าที่ควร ต้องอาศัยคำแนะนำของพ่อแม่ผู้ปกครองด้วย เพื่อให้เด็กได้เห็นถึงความสำคัญในการสวมใส่เครื่องมือ และในขณะที่ใช้เครื่องมือ EF Line จะต้องอยู่ในการดูแลของทันตแพทย์อย่างใกล้ชิด ต้องมาตามนัดทันตแพทย์ เพื่อจะได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพสูงที่สุดนั่นเอง ส่วนคำถามที่ว่า หากเด็กไม่ใส่เครื่องมือ EF LINE จะมีผลอย่างไร แน่นอนว่าถ้าเด็กไม่สวมใส่เครื่องมือ ก็จะทำให้ผลการรักษาในการจัดฟันในเด็กล้มเหลว หรืออาจจะทำให้เด็กมีฟันและโครงหน้าที่ผิดปกติและจะทำให้เกิดการรักษายากขึ้นมากในอนาคต เพราะฉะนั้น วินัยในการสวมใส่เครื่องมือ EF LINE จึงมีความสำคัญมากในการจัดฟันในเด็กที่มีอายุ 4 ปีขึ้นไป


อย่างไรก็ตาม พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรที่จะสอนให้ลูกรู้จักวิธีการดูแลรักษาความสะอาดฟันอย่างถูกวิธี ควรปลูกฝังให้เด็กตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน เพื่อที่จะได้ไม่มีปัญหาฟันในอนาคต มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น หากท่านสนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็กด้วย EF Line สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิก เพราะทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการทันตกรรมในเด็ก สามารถให้คำปรึกษาได้อย่างถูกต้อง เพราะเราอยากให้เด็กมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่มากขึ้น

2
motor show: AION V 602 Luxury เปิดตัวแล้วพร้อมราคาพิเศษเพียง 999,900 บาท

GAC AION ผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าระดับโลก สร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ในงาน Thailand International Motor Expo เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุด AION V 602 Luxury อย่างเป็นทางการในงาน พร้อมสิทธิประโยชน์เหนือระดับ

ชูจุดเด่นเรื่องระยะทางวิ่งสูงสุด 602 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC) ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง, เทคโนโลยีชาร์จเร็ว 3C รับกำลังไฟได้สูงสุด 180 kW และฟีเจอร์อัจฉริยะมากมาย พร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ล่าสุด คุณต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร

คุณ จัสติน เฉา (Justin Cao) ผู้จัดการแบรนด์อาวุโส บริษัท ไอออน ออโตโมบิล เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในงาน Motor Expo เมื่อปีก่อน เราได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า AION Y Plus Premium ซึ่งได้รับกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้าชาวไทย และในวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา เราได้นำเสนอมิติใหม่ของรถยนต์ไฟฟ้ากับ HYPTEC HT รถยนต์เอสยูวีไฟฟ้าระดับลักชูรี่ ที่มาพร้อมกับประตูแบบปีกนก Gull-Wing door รุ่นแรกของประเทศไทย และในงาน Motor Expo 2024 ครั้งนี้ เราได้เปิดตัว AION V 602 Luxury รถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และการใช้งานของลูกค้าชาวไทย โดยรถรุ่นนี้มียอดขายสูงถึงราว ๆ 10,000 คันต่อเดือนในประเทศจีน และเรามีความยินดีที่จะเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ของ AION V นั่นก็คือ คุณต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร ซึ่งถือเป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรกของแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า AION

AION V 602 Luxury ราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ 1,029,900 บาท โปรโมชั่นพิเศษสำหรับ AION V เฉพาะในงาน Motor Expo 2024 ระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2567 รับสิทธิพิเศษ ส่วนลดเพิ่ม 30,000 บาท ราคาเหลือเพียง 999,900 บาท

สิทธิประโยชน์ Exclusive Privilege AION V*
Exclusive Warranty Package
รับประกันแบตเตอรี่ และชุดขับเคลื่อนไฟฟ้า 8 ปี หรือระยะทาง 240,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
รับประกันคุณภาพตัวรถ 8 ปี หรือระยะทาง 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
Insurance Gift ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
Exclusive Deal for Home Charger
ฟรี Home Charger พร้อมบริการติดตั้ง (ภายในระยะเวลา 1 ปี นับจากวันที่ออกรถ)
รับประกัน 1 ปี สำหรับ Home Charger และงานติดตั้ง
ฟรี งานติดตั้งระยะสายไฟยาว 20 เมตร (ส่วนเกินมีค่าใช้จ่าย เงื่อนไขการรับประกันตามที่บริษัทกำหนด)
IN-CAR Internet Service - ฟรี!! แพ็กเกจอินเตอร์เน็ตในรถยนต์ นาน 2 ปี จำนวน 4 GB/เดือน
LIFETIME OTA FIRMWARE UPDATE - ฟรี!! อัปเดตซอฟต์แวร์ ตลอดชีพ
24 Hours Roadside Service - บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง นาน 8 ปี

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

AION V ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้า Global Model รุ่นแรกของ GAC AION ที่มุ่งเน้นการทำตลาดในระดับโลก ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการเผยโฉมรถรุ่นนี้อย่างเป็นทางการในงาน Paris Motor Show และได้รับเสียงตอบรับของผู้ที่เข้าร่วมงานเป็นอย่างดี โดย AION V นำเสนอความสะดวกสบาย ความอัจฉริยะ และดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ผ่าน 5 จุดเด่นได้แก่ V Design, V Comfort, V Energy, V Confidence และ V Intelligent

V Design
AION V ถูกออกแบบโดยยึดหลักแนวคิด Cyber Design ผสมผสานรูปทรงที่ล้ำสมัยเข้ากับรูปทรงเรขาคณิตที่หลากหลาย เพื่อสร้างความสวยงามที่เฉียบคมและพลิ้วไหว โดดเด่นด้วยไฟหน้าและไฟท้ายแบบ Full LED ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเครื่องจักรกลล้ำสมัย ด้านข้างมาพร้อมเส้นสายที่ดูแข็งแกร่งและทรงพลัง พร้อมด้วยล้ออัลลอยแบบ 8 ก้าน ขนาด 19 นิ้ว มาพร้อมสีตัวถังภายนอกทั้งหมด 7 สี และสีภายในห้องโดยสาร 2 สี ดังนี้
สีภายนอก (Exterior)
สีขาว Alpine White
สีดำ Onyx Black
สีน้ำตาล Sahara Sand
สีเงิน Aurora Silver
สีเทา Iceland Grey
สีส้ม Volcano Orange
สีส้ม หลังคาขาว Volcano Orange + White Roof

สีภายใน (Interior)
สีดำ Midnight Black
สีน้ำตาล Olympus Brown

V Comfort
AION V นำเสนอมิติใหม่ของการขับขี่และการโดยสารที่เหนือกว่า พร้อมมอบความหรูหราระดับเรือธง ด้วยฟีเจอร์และออปชันอำนวยความสะดวกมากมาย
เบาะนวดแบบสปา: เลียนแบบการนวดเสมือนจริง พร้อมการนวด 8 จุด, ปรับระดับความแรงได้ 3 ระดับ และมีโหมดให้เลือก 5 แบบ ช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าจากการขับขี่และอาการปวดเอว
วัสดุนุ่มสัมผัสบริเวณที่สัมผัสบ่อย 100%:  ภายในห้องโดยสารดูหรูหราตั้งแต่แรกเห็น และพื้นที่สัมผัสบ่อยหุ้มด้วยวัสดุนุ่ม 100% เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่

ตู้เย็นอเนกประสงค์อัจฉริยะ: ปรับการทำงานได้ 3 โหมด ได้แก่ โหมดอุ่นร้อน โหมดแช่เย็น และโหมดแช่แข็ง ครอบคลุมช่วงอุณหภูมิตั้งแต่ -15 ถึง 50 องศาเซลเซียส ให้คุณเพลิดเพลินกับความสะดวกสบายและความอร่อยได้ทุกที่ ทุกเวลา

ห้องโดยสารแบบลอยตัว: หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ขนาด 8.88 นิ้ว และ หน้าจอ Infotainment ขนาด 14.6 นิ้ว มอบประสบการณ์ที่ล้ำสมัยยิ่งขึ้นให้กับผู้ใช้
ช่องลมแอร์ด้านหลัง บริเวณเสา B-Pillar: ให้ความเย็นโดยไม่มีลมกระแทก ป้องกันลมเย็นเป่าตรงไปที่หัวเข่าของผู้โดยสารด้านหลัง
โต๊ะพับอเนกประสงค์: โต๊ะพับอเนกประสงค์หลังเบาะผู้ขับขี่ เพื่อไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียม

หลังคากระจกพาโนรามาขนาด 2.14 ตารางเมตร: ให้การป้องกันแสงแดดอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า
มุมเปิดประตูขนาดใหญ่: ประตูหลังสามารถเปิดได้กว้างเกือบ 90 องศา เพิ่มความสะดวกในการขึ้นลง

ระบบเสียงพรีเมียมเสมือนอยู่ในสถานที่จริง: ลำโพงพรีเมียมจากเบลเยียม พร้อมซับวูฟเฟอร์ 8 นิ้ว ให้เสียงที่เต็มอิ่ม
พื้นที่เงียบสงบ: กระจกกันเสียง 2 ชั้นด้านหน้า และวัสดุซับเสียงคุณภาพสูง ลดเสียงรบกวนจากภายนอก สร้างประสบการณ์การขับขี่ที่เงียบสงบขณะเดินทาง

เบาะนั่งตอนหลังหรูหราแบบปรับเอนได้: เบาะนอนขนาดใหญ่คล้ายโซฟา ปรับเอนได้ถึง 137 องศา พร้อมการปรับพนักพิงได้สูงสุด 20 องศา รองรับทุกสรีระของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
การควบคุมเสียงเลื่อนเบาะผู้โดยสารด้านหน้าไปข้างหน้า: เมื่อเปิดใช้งาน เบาะผู้โดยสารด้านหน้าจะเลื่อนไปตำแหน่งด้านหน้าสุด เพื่อเพิ่มพื้นที่ด้านหลังให้กว้างขึ้น
พื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่: ขนาดความจุ 427 ลิตร และสามารถเพิ่มได้สูงสุดถึง 987 ลิตร

ประตูท้ายอัจฉริยะไฟฟ้า: ประตูท้ายแบบไฟฟ้า ปรับระดับได้ตามความสูงของผู้ใช้งาน เปิดและปิดได้อย่างสะดวกสบาย
โหมดปรับเป็นเตียงขนาดใหญ่ในทันที: รองรับการควบคุมด้วยหน้าจอและคำสั่งเสียง เปลี่ยนเป็นเตียงขนาดใหญ่ในพริบตา
ที่นั่งข้างคนขับเสมือนโต๊ะเครื่องแป้งเคลื่อนที่: ด้วยกระจกแต่งหน้าบานใหญ่ ไฟแต่งหน้าวงแหวน พร้อมคอนโซลหน้าฝั่งผู้โดยสารที่สามารถวางของได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแป้งพัฟ ลิปสติก อายแชโดว์ หรือวางสัมภาระอื่น ๆ ได้อย่างที่ใจต้องการ

V Energy
ไปได้ไกลกว่า ชาร์จเร็วเหนือใคร ปลอดภัยกว่าที่เคย ด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่และระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะใน AION V
วิ่งได้ไกลถึง 602 กม. (มาตรฐาน NEDC): สามารถเดินทางไป - กลับ ระหว่างกรุงเทพฯ และนครราชสีมา โดยไม่ต้องแวะชาร์จ
เทคโนโลยีชาร์จเร็ว 3C: รองรับกระแสไฟสูงสุด 180 kW สามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้วิ่งได้ถึง 300 กม. ในเวลาเทียบเท่ากับการดื่มกาแฟ 1 แก้ว (15 นาที)
ประหยัดพลังงาน: การใช้พลังงานตามมาตรฐาน NEDC ต่ำเพียง 14.1 kWh/100 กม. ช่วยประหยัดพลังงานและเดินทางได้ไกลมากยิ่งขึ้น
ฟีเจอร์ปล่อยกระแสไฟฟ้าสู่อุปกรณ์ภายนอก V2L: กำลังไฟสูงสุด 3.3 kW รองรับการใช้งานกลางแจ้งทุกสถานการณ์ เช่น การตั้งแคมป์และการดูหนัง

แบตเตอรี่และระบบส่งกำลังน้ำหนักเบา: ใช้วัสดุน้ำหนักเบา สามารถลดน้ำหนักแบตเตอรี่ลง 7% และลดน้ำหนักระบบส่งกำลังลง 33% ส่งผลให้การใช้พลังงานและสมรรถนะการขับขี่ดีขึ้น
เทคโนโลยีซิลิคอนคาร์ไบด์: ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่และเพิ่มระยะทางขับขี่ได้อีก 30 กม.

V Confidence
โครงสร้างตัวถัง ความแข็งแรงสูง: ใช้วัสดุเหล็กคุณภาพสูง วัสดุขึ้นรูปด้วยความร้อน และอลูมิเนียมอัลลอยด์ ในตัวรถทั้งคันสูงถึง 72%
แพลตฟอร์มรถไฟฟ้าอัจฉริยะ AEP 3.0: เพิ่มพื้นที่ภายในรถได้ถึง 20% โดยที่ยังคงระยะฐานล้อเท่าเดิม เพื่อความสะดวกสบายที่มากขึ้นสำหรับผู้ใช้งาน
เทคโนโลยี Magazine Battery 2.0: มีความปลอดภัยสูง ผ่านการทดสอบการยิงด้วยกระสุนปืน โดยไม่เกิดไฟลุกไหม้แต่อย่างใด มาพร้อมระบบจัดการความร้อนและระบบจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพ
ถุงลมนิรภัยตรงกลาง สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า: ลดการบาดเจ็บจากการชนซ้ำสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า
ม่านถุงลมนิรภัยยาวพิเศษ 2.3 เมตร: สามารถพองตัวได้ในเวลา 0.03 วินาที และรักษาแรงดันได้นาน 6 วินาที เพื่อให้การปกป้องรอบด้านอย่างต่อเนื่องเมื่อรถเกิดการพลิกคว่ำ
ที่จอดรถที่สะดวกสบาย: เพิ่มความมั่นคงของรถขณะเบรก ลดการหน้าทิ่มและโยนตัว เพื่อให้ผู้โดยสารมีความสะดวกสบายระหว่างการเดินทาง

V Intelligent
ระบบสั่งการด้วยเสียงอัจฉริยะ: รองรับการควบคุมด้วยเสียงในภาษาอังกฤษและภาษาไทย ครอบคลุมทุกสถานการณ์ พร้อมระบบโต้ตอบ 4 ทิศทาง ใช้งานได้ทั้งที่นั่งด้านหน้าและด้านหลัง ช่วยให้คุณไม่ต้องใช้มือในการควบคุม
รองรับ CarPlay และ Spotify: แพลตฟอร์มสตรีมมิงเพลงชั้นนำระดับโลก เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ในหลายภูมิภาคทั่วโลก (Spotify จะพร้อมใช้งานผ่าน OTA ในเดือนธันวาคม)
ชิปประมวลผลประสิทธิภาพสูง Snapdragon 8155P: ให้ประสิทธิภาพในการประมวลผลที่ยอดเยี่ยม สั่งการค่าต่างๆ ของตัวรถได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุด
ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะระดับ L2: มอบความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นบนทางหลวงหรือถนนที่มีการจราจรหนาแน่น
ระบบนำทางอัจฉริยะ: รองรับการค้นหาสถานีชาร์จ และการแสดงผลแผนที่แบบ 3 มิติ พร้อมประสบการณ์การใช้งานที่ล้ำสมัยด้วยข้อมูลภาพจาก Here
ความปลอดภัยเชิงรุก: ระบบความปลอดภัยเชิงรุกที่ครอบคลุมทุกสถานการณ์ มอบการปกป้องรอบด้านด้วยการตรวจสอบสภาพแวดล้อมภายนอกรถแบบเรียลไทม์และครบถ้วน รวมถึงยานพาหนะและคนเดินถนน

3
ไม่ควรติดตั้งท่อลมร้อน ในบริเวณไหนบ้าง

การเลือกตำแหน่งติดตั้งท่อลมร้อนเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ในทางกลับกัน การรู้ว่า "ไม่ควรติดตั้งท่อลมร้อนในบริเวณไหนบ้าง" ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ประสิทธิภาพการทำงาน และปัญหาในการบำรุงรักษาในระยะยาว

นี่คือบริเวณที่คุณ ไม่ควร ติดตั้งท่อลมร้อน หรือควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่ง และหากจำเป็นต้องติดตั้ง ควรมีมาตรการควบคุมความเสี่ยงเพิ่มเติมที่เข้มงวด:


1. บริเวณที่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยสูง (High Safety Risk Areas)

ทางเดินหลักของพนักงานและพื้นที่ปฏิบัติงานที่มีการจราจรสูง:
เหตุผล: เพิ่มความเสี่ยงที่พนักงานจะสัมผัสท่อลมร้อนโดยไม่ตั้งใจ ทำให้เกิดแผลไหม้ได้ง่าย แม้จะมีฉนวนก็ยังมีโอกาสเสี่ยงอยู่ดี
เหนือทางหนีไฟ, ประตูฉุกเฉิน, หรือเส้นทางอพยพ:
เหตุผล: หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ท่อที่ร้อนอาจเป็นอุปสรรคต่อการอพยพ หรืออาจเสียหายจนปิดกั้นเส้นทางได้
ใกล้กับอุปกรณ์ดับเพลิง, วาล์วฉุกเฉิน, หรือแผงควบคุมระบบความปลอดภัย:
เหตุผล: ความร้อนจากท่ออาจทำให้บุคลากรไม่สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ฉุกเฉินเหล่านี้ได้ทันท่วงทีเมื่อเกิดเหตุ
ใกล้กับวัสดุไวไฟ, สารเคมีไวไฟ, หรือเชื้อเพลิง:
เหตุผล: ความร้อนที่แผ่ออกมาจากท่อ (แม้จะมีฉนวน) หรือการรั่วไหลของลมร้อน อาจเป็นสาเหตุของการลุกไหม้หรือการระเบิด
ในพื้นที่อับอากาศ (Confined Spaces) ที่ไม่มีการระบายอากาศเพียงพอ:
เหตุผล: ความร้อนจะสะสมสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้พื้นที่นั้นอันตรายต่อการทำงาน และอาจทำให้อุปกรณ์ร้อนจัดเกินไป
บริเวณที่การสัมผัสเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยปราศจากมาตรการป้องกันที่เพียงพอ:
เหตุผล: แม้จะเป็นพื้นที่เล็ก ๆ หากพนักงานต้องสัมผัสท่อบ่อย ๆ โดยไม่มีการป้องกันที่แข็งแรง (เช่น รั้วกั้น) ก็เพิ่มความเสี่ยง


2. บริเวณที่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน (Operational Efficiency Drawbacks)

เส้นทางที่ยาวเกินไป หรือมีข้องอ/หักเลี้ยวบ่อยครั้งโดยไม่จำเป็น:
เหตุผล: เพิ่มการสูญเสียแรงดันอย่างมหาศาล ทำให้พัดลมทำงานหนักขึ้น สิ้นเปลืองพลังงาน และลดปริมาณลมร้อนที่ส่งไปถึงปลายทาง
บริเวณที่มีลมโกรกจัด หรือมีอุณหภูมิต่ำมาก:
เหตุผล: เพิ่มการสูญเสียความร้อนจากท่อไปยังสิ่งแวดล้อม ทำให้ระบบต้องใช้พลังงานมากขึ้นเพื่อชดเชยความร้อนที่หายไป
เหนืออุปกรณ์ที่มีความละเอียดอ่อนต่อความร้อน หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์:
เหตุผล: ความร้อนที่แผ่ออกมาอาจทำให้อุปกรณ์เหล่านี้ทำงานผิดปกติ หรืออายุการใช้งานสั้นลง


3. บริเวณที่ยากต่อการบำรุงรักษาและมีปัญหาด้านโครงสร้าง (Maintenance & Structural Issues)

พื้นที่ที่เข้าถึงได้ยาก หรือต้องใช้ความพยายาม/อุปกรณ์พิเศษในการเข้าถึง:
เหตุผล: ทำให้การตรวจสอบสภาพท่อ, ฉนวน, รอยรั่ว, และจุดยึดเป็นไปได้ยากหรือทำได้ไม่บ่อยนัก ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาที่ตรวจไม่พบและบานปลาย
เพิ่มค่าใช้จ่ายและเวลาในการซ่อมบำรุงในอนาคต
บริเวณที่ไม่มีโครงสร้างรองรับที่แข็งแรงเพียงพอ:
เหตุผล: ท่อลมร้อนมีน้ำหนักมาก (โดยเฉพาะเมื่อมีฉนวน) หากไม่มีโครงสร้างรองรับที่มั่นคง อาจเกิดการทรุดตัว, หย่อนคล้อย, หรือเสียหายได้
บริเวณที่ท่ออาจสัมผัสกับของเหลว, สารเคมี, หรือความชื้นที่รุนแรง และไม่ได้ออกแบบมาเพื่อทนทานต่อสิ่งเหล่านั้น:
เหตุผล: อาจทำให้เกิดการกัดกร่อนหรือความเสียหายต่อวัสดุท่อและฉนวนอย่างรวดเร็ว


4. บริเวณที่อาจส่งผลต่อคุณภาพผลิตภัณฑ์ (Product Quality Impact - Specific Industries)
เหนือสายการผลิตอาหาร, ยา, หรือผลิตภัณฑ์ที่ต้องการความสะอาดสูง:
เหตุผล: แม้ท่อจะถูกปิดผนึก แต่หากมีการรั่วไหลของลมร้อนที่มีฝุ่นปนเปื้อน หรือการปนเปื้อนจากวัสดุฉนวน อาจส่งผลต่อสุขอนามัยและคุณภาพของผลิตภัณฑ์

การพิจารณาหลีกเลี่ยงบริเวณเหล่านี้อย่างรอบคอบ หรือการใช้มาตรการควบคุมความเสี่ยงที่เข้มงวดที่สุดเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ จะช่วยให้ระบบท่อลมร้อนของคุณทำงานได้อย่างปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และยั่งยืนในระยะยาว

4
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


5
สร้างอาชีพ จากการขายข้าวไข่ข้นนมสด เมนูไข่นุ่มเด้งเป็นเลเยอร์ เนื้อนุ่ม หอม กินอร่อยทำขายได้

ข้าวไข่ข้นนมสดเป็นเมนูอาหารจานเดียวที่ได้รับความนิยม เนื่องจากทำง่าย รสชาติอร่อยและมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มละมุน โดยมีส่วนผสมหลักคือ ไข่ไก่ นมสดและเครื่องปรุงรสต่างๆ หากคุณกำลังมองหาอาหารจานเดียวที่ทำได้อย่างรวดเร็วและน่าพึงพอใจข้าวไข่คนนมสดครีมมี่เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม อาหารจานนี้ผสมผสานความนุ่มฟูของไข่ข้นเข้ากับความเข้มข้นของนมสด สร้างเนื้อสัมผัสที่ละลายในปากของคุณ

ข้าวไข่ข้นนมสดคืออะไร?
ข้าวไข่เจียวครีมมี่เป็นไข่เจียวสไตล์ไทยยอดนิยมที่เสิร์ฟบนข้าวสวย แตกต่างจากไข่เจียวทั่วไป ตรงที่ไข่เจียวรุ่นนี้ทำโดยการตีไข่กับนมสดเพื่อให้เนื้อสัมผัสนุ่มเนียนขึ้น เมื่อปรุงอย่างถูกต้อง ไข่เจียวจะเยิ้มเล็กน้อย ทำให้มีรสชาติเข้มข้นและเนียนนุ่ม

วัตถุดิบ
ในการทำข้าวไข่เจียวครีมที่สมบูรณ์แบบ คุณจะต้องมี:
ไข่ขนาดใหญ่ 2 ฟอง
นมสด 3 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาวหรือน้ำปลา 1 ช้อนชา
น้ำตาล ½ ช้อนชา (ไม่จำเป็น)
เกลือและพริกไทยเล็กน้อย
เนยหรือน้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
ข้าวสวย 1 ถ้วย
ท็อปปิ้งเสริม: ต้นหอมสับ ชีสขูด แฮม หรือเห็ด


วิธีทำข้าวไข่ข้นนมสด

เตรียมไข่ – ตอกไข่ใส่ชาม เติมนมสด ซีอิ๊วขาว เกลือ และพริกไทยเล็กน้อย ตีส่วนผสมจนเข้ากันดีและเป็นฟองเล็กน้อย
ตั้งกระทะให้ร้อน – วางกระทะเทฟลอนบนไฟอ่อนปานกลางและใส่เนยหรือน้ำมันพืชลงไป
ทำไข่ข้น – เทส่วนผสมไข่ลงในกระทะแล้วคนเบาๆ ด้วยไม้พาย ปล่อยให้ไข่เจียวสุกช้าๆ โดยพับไข่เล็กน้อยเพื่อให้เกิดชั้นที่นุ่ม อย่าให้สุกเกินไป ไข่เจียวควรมีเนื้อเหลวเล็กน้อยตรงกลาง
เสิร์ฟ – วางข้าวสวยลงบนจาน และค่อยๆ เลื่อนไข่เจียวไปบนข้าว
เครื่องปรุง – เพิ่มเครื่องปรุงที่คุณชื่นชอบ เช่น ชีสขูด ต้นหอมสับ หรือซอสถั่วเหลืองเล็กน้อย

ทำไมคุณถึงจะรักอาหารจานนี้
รวดเร็วและง่ายดาย – ใช้เวลาเตรียมเพียง 10 นาที
นุ่มและครีมมี่ – การผสมผสานระหว่างไข่และนมสดสร้างเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่ม
ปรับแต่งได้ – คุณสามารถเพิ่มส่วนผสมเช่นแฮม เห็ด หรือชีส เพื่อรสชาติพิเศษ
สบายใจและอิ่มท้อง – เหมาะสำหรับอาหารเช้า อาหารกลางวัน และอาหารเย็น

เคล็ดลับการทำออมเลตครีมมี่ให้สมบูรณ์แบบ
ใช้ไฟอ่อนเพื่อหลีกเลี่ยงการสุกเกินไปและช่วยให้ไข่เจียวสุกนิ่ม
ตีให้เข้ากันเพื่อผสมอากาศให้เนื้อเนียนขึ้น

หากคุณชอบความครีมมี่มากขึ้น ให้เติม วิปปิ้งครีมปริมาณเล็กน้อยแทนที่นมสด
หากต้องการรสชาติที่เข้มข้นยิ่งขึ้น ควรใช้เนยแทนน้ำมัน
ข้าวไข่เจียวครีมมี่เป็นเมนูง่ายๆ แต่แสนอร่อยที่ใครๆ ก็ทานได้ ไม่ว่าคุณจะทำอาหารมื้อด่วนให้ตัวเองหรือสร้างความประทับใจให้ครอบครัวด้วยเมนูโฮมเมด ไข่เจียวสไตล์ไทยนี้จะต้องกลายเป็นเมนูโปรดของคุณอย่างแน่นอน


6
บริหารจัดการอาคาร: เทคนิคใช้แอร์ ให้ประหยัดไฟ

การใช้งานเครื่องปรับอากาศ เชื่อว่าหลายคนคงใช้เป็นกันอยู่แล้วเพราะแอร์ถือว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่หลายบ้านต้องมีอย่างแน่นอน เนื่องจากเมืองไทยเป็นเมืองร้อนซึ่งเครื่องปรับอากาศก็มีความจำเป็นที่จะช่วยในการคลายร้อนได้ แต่การใช้งานเครื่องปรับอากาศนั้นถือว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เปลืองไฟมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ยิ่งบ้านไหนใช้งานทุกวันก็ต้องยอมเสียเงินจ่ายค่าไฟหลักพันเลยทีเดียว แต่การใช้งานเครื่องปรับอากาศนั้นถ้าเราใช้งานอย่างถูกต้อง ก็สามารถประหยัดค่าไฟไปได้เยอะแถมยังช่วยรักษาอายุการใช้งานให้อยู่คู่กับบ้านได้นานอีกด้วย

แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่า เครื่องปรับอากาศที่เราใช้งานอยู่ทุกวันๆนั้น เราใช้งานถูกต้องแล้วอย่างที่บอกว่า เครื่องปรับอากาศ ถือเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่บ้านหรือครัวเรือนแทบจะทุกหลังคาเรือนต้องมีเพราะด้วยอากาศที่ร้อนมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่อากาศร้อนอบอ้าวเป็นพิเศษทำให้เรารู้สึกหายเหนื่อยขึ้นมาได้เลยทีเดียว การใช้งานเครื่องปรับอากาศนั้นถึงแม้ว่าจะไม่มีความยุ่งยากซับซ้อนเท่าไหร่ แต่เราก็ต้องใช้งานให้ถูกวิธีเพื่อที่จะรักษาเครื่องปรับอากาศของเราให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานและไม่เกิดเสียก่อนเวลาอันควร

ในเรื่องของการปรับโหมดต่างๆ เราจะต้องปรับโหมดให้เข้ากับการใช้งานนอกจากจะเป็นการถนอมเครื่องปรับอากาศของเราแล้ว ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย

ดังนั้น วันนี้เราจะมาพูเถึงเทคนิคในการใช้แอร์เพื่อให้เราได้ประหยัดค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน และยังช่วยทำให้คนในบ้านมีสุขภาพดีด้วยเพราะการเปิดแอร์ ถ้าหากแอร์มีความสกปรกมากเกินไป อาจจะส่งผลต่อสุขภาพของคนในบ้านได้นั่นเอง

สำหรับเทคนิคสุดยอดของการใช้งานแอร์ให้ประหยัดไฟวิธีแรกที่ดีที่สุดเลยคือการล้างทำความสะอาดแอร์ เพราะเมื่อแอร์มีการใช้งานไปนานๆจะมีฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกเข้าไปในตัวแอร์ และเมื่อสะสมมากขึ้นเรื่อยๆก็จะทำให้แอร์ไม่ค่อยเย็น ทำงานหนัก กินไฟมากกว่าเดิมและถ้าฝุ่นละอองเข้าไปอุดตันในท่อน้ำแอร์ก็จะทำให้แอร์มีน้ำหยดการล้างแอร์เบื้องต้นด้วยการทำความสะอาดแผ่นกรองหยาบก็สามารถช่วยให้แอร์กลับมาทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ต่อคือการตั้งอุณหภูมิ ก็มีส่วนช่วยในการประหยัดค่าไฟเช่นกันเราควรตั้งระดับอุณหภูมิแอร์ที่ 25 องศา แต่ถ้าใครลองปรับเพิ่มอุณหภูมิเป็น 26-27 องศาแล้วยังรู้สึกสบายตัวอยู่ก็ควรปรับอุณหภูมิขึ้นเล็กน้อย แอร์ก็จะทำงานน้อยลง ช่วยให้ประหยัดพลังงานและประหยัดค่าไฟ

และอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยได้มากเหมือนกันก็คือ หลีกเลี่ยงใช้แอร์ในห้องพื้นที่เปิดเช่น ที่มีทางขึ้นบันได ทางเดินไปห้องอื่นๆ ไม่มีประตูกั้น นอกจากแอร์ไม่ค่อยเย็นแล้วยังทำให้แอร์ต้องทำงานหนักกว่าปกติและค่าไฟเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ดังนั้นจึงควรเปิดแอร์ในห้องที่เป็นพื้นที่ปิด หรือถ้าจำเป็นต้องใช้แอร์ในห้องโถงจริงๆก็ควรติดตั้งฉากกั้นพื้นที่แบบเปิดปิด

นอกจากนี้ เราอาจจะใช้การเปิดพัดลมไล่ความร้อนในห้องก่อนเปิดแอร์จะช่วยลดความอุณหภูมิความร้อนภายในห้องทำให้ตอนเปิดแอร์ไม่ต้องทำงานหนักมากยิ่งถ้าเปิดพัดลมช่วยในระหว่างที่เปิดแอร์จะช่วยให้ความเย็นจากแอร์กระจายไปทั่วห้องเพราะการเปิดพัดลมช่วยจะทำให้แอร์เย็นสบายเหมือนเดิม

และวิธีการสุดท้ายก็คือ หลีกเลี่ยงการนำของร้อนหรือของชื้นเข้ามาในห้องแอร์จะทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้นเพื่อลดอุณหภูมิความร้อนที่เพิ่มขึ้นในห้องนั่นเอง

ทั้งหมดนี้ก็คือเทคนิคในการใช้แอร์ให้ประหยัดค่าไฟฟ้าและยังช่วยทำให้เราถนอมแอร์ของเราให้ใช้ได้กันไปยาวๆเพียงแค่ทำตามที่เรากล่าวมา ก็จะช่วยทำให้เราเปิดแอร์ได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องกังวลถึงค่าไฟฟ้าที่ต้องจ่ายในจำนวนมหาศาลแล้ว แถมยังช่วยให้โลกไม่ร้อนนอกจากจะปยัดพลังงานแล้ว เรายังมีส่วนในการช่วยลดโลกร้อนอีกด้วย

ทั้งนี้ทางเราอยากให้ทุกคนได้เลือกเครื่องปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพในการใช้งานที่เหมาะสมกับคุณทางเรามีบริการดูแลระบบเครื่องปรับอากาศภายในอาคาร ที่มีคนจำนวนมาก
เพื่อที่จะได้สามารถใช้งานเครื่องปรับอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเราถือว่าระบบปรับอากาศและหมุนเวียนอากาศเป็นสิ่งจำเป็นมาก เพราะผู้คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันมักจะใช้ชีวิตในภายในอาคารนั่นถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ เพราะถ้าเราได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์และสะอาดเข้าไปก็จะทำให้เรามีสุขภาพที่ดี สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้สดชื่น สบายมากยิ่งขึ้น

7
บ้านติดรถไฟฟ้า เอลซ์ รามอินทรา 34 (ELSE Ramindra 34)
เริ่มต้น 40 ลบ. - 50 ลบ.

เอลซ์ รามอินทรา 34 (ELSE Ramindra 34)
เอลซ์ รามอินทรา 34 บ้านเดี่ยว 2 ชั้นโครงการใหม่จาก แสนสิริ Exclusive Residence เพียง 5 ยูนิต ดีไซน์เหนือระดับในสไตล์ Modern Classic ที่เรียบง่าย แต่ยังคงมีความโดดเด่นและความร่วมสมัยในทุกรายละเอียด และนับเป็น Timeless Design ที่จะอยู่เหนือกาลเวลา

รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ             เอลซ์ รามอินทรา 34 (ELSE Ramindra 34)
 เจ้าของโครงการ       แสนสิริ
 แบรนด์ย่อย             เอลซ์
 ราคา                   เริ่มต้น 40 ลบ. - 50 ลบ.

 ประเภทบ้าน          บ้านเดี่ยว
 ลักษณะทำเล         บ้านใกล้เมือง
 พื้นที่โครงการ        โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนบ้าน           5 หลัง
 แบบบ้านทั้งหมด     2 แบบ
  เนื้อที่บ้าน            ตั้งแต่ 130.6 ตร.ว.
 พื้นที่ใช้สอย          ตั้งแต่ 332 ถึง 425 ตร.ม.
 จำนวนชั้น             2 ชั้น
 หน้ากว้าง            โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนห้องนอน     ตั้งแต่ 4 ถึง 5 ห้อง
 จำนวนที่จอดรถ     3 คัน
 สาธารณูปโภค      สวนสาธารณะ, รปภ., CCTV, อื่นๆ (Solar Panel, EV Charger)

สถานที่ใกล้เคียง
 โซน         แจ้งวัฒนะ, หลักสี่, ดอนเมือง, บางเขน
 ที่ตั้ง         ซอยรามอินทรา 34 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร 10220

 ขนส่งสาธารณะ
ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีชมพู, สถานี(แคราย - มีนบุรี)(มัยลาภ)
ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีชมพู, สถานี(แคราย - มีนบุรี)(วัชรพล)
ใกล้ทางด่วน (ทางพิเศษฉลองรัช)
ใกล้ถนนสายหลัก (ถนนรามอินทรา, ถนนประดิษฐ์มนูธรรม, ถนนประเสริฐมนูกิจ, ถนนนวมินทร์)

 สถานที่สำคัญใกล้เคียง
1. The Walk เกษตร-นวมินทร์ 2.6 กม.
2. The Cystal เอกมัย-รามอินทรา 5.3 กม.
3. เซ็นทรัลอีสต์วิลล์ 6 กม.
4. โรงเรียนนานาชาติ กีรพัฒน์ (KPIS International School) 600 เมตร
5. โรงเรียนนานาชาตินีวาอเมริกัน (NIVA American International School) 7.1 กม.
6. โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา 4.1 กม.
7. โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ 5.7 กม.

8
สร้างทัศนคติอย่างไร ให้เด็กมีความร่วมมือกับการจัดฟันเด็ก

ถ้าหากเราพูดถึงเรื่องของฟันของเด็ก ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่มีความสำคัญของใบหน้า พ่อแม่ผู้ปกครองควรดูแลเรื่องสุขภาพฟันของบุตรหลานตั้งแต่ฟันเริ่มขึ้น เพื่อให้บุตรหลานของท่านไม่เกิดปัญหาเกี่ยวกับฟันในระยะยาว ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาช่วยในการรักษาทางทันตกรรม แต่ก็ยังไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ ดังนั้น การดูแลสุขภาพช่องปากและฟันของเด็กให้ดีตั้งแต่ฟันเริ่มขึ้น ถือเป็นวิธีการที่ดีที่สุดที่ทำให้ลูกของเราไม่มีปัญหาในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน สำหรับ สาเหตุที่อาจทำให้บุตรหลานของท่านมีปัญหาเกี่ยวกับฟันนั้น ส่วนหนึ่งก็มาจากพฤติกรรมในวัยเด็ก เช่น การดูดขวดนมในระยะเวลาที่ยาวนาน ซึ่งการดูดขวดนมของเด็ก เขาจะใช้ลิ้นดุนฟันหน้าตลอดเวลาที่ดูดขวดนมจากขวดส่งผลให้ฟันบนบานออก ฟันล่างหุบเข้าไปข้างใน ทำให้เกิดฟันผิดรูป ซึ่งการแก้ไขปัญหาควรให้ลูกดูดนมจากเต้าของแม่จะดีที่สุด

นอกจากนี้ พฤติกรรมการดูดนิ้วก็มีผลต่อฟันของเราเช่นเดียวกัน อาจจะส่งผลทำให้เกิดฟันยื่น เพราะนิ้วที่ลูกนำเข้าปาก ก็มีลักษณะคล้ายกับการดูดขวดนมนั่นเอง ต่อมาในเรื่องของความผิดปกติของฟันอาจจะทำให้ฟันหน้าเคลื่อนหรือยื่นออกมาผิดปกติได้ ซึ่งในปัจจุบันสามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟันในเด็ก ซึ่งการจัดฟันในเด็กนั้น มักนิยมจัดฟันในช่วงที่มีฟันแท้ขึ้นครบแล้ว นั่นก็คืออายุประมาณ 12 – 13 ปี ซึ่งการเข้ารับการรักษาทางทันตกรรมด้วยวิธีการจัดฟันก็มีด้วยกันหลากหลายช่วงอายุ ได้แก่ วัยเด็กเล็ก วัยเด็กและวัยรุ่น โดยในการจัดฟันในเด็ก ทันตแพทย์จะต้องทำการพิจารณาความผิดปกติและพัฒนาการของกระโหลกศรีษะและใบหน้าร่วมด้วย ถ้าหากมีความผิดปกติของความสัมพันธ์ของกระดูกขากรรไกรบนและล่าง ก็ควรเริ่มรักษาตั้งแต่อายุยังน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาลุกลามในอนาคต ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองควรนำบุตรหลานของท่านที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปีมาตรวจกับทันตแพทย์จัดฟันโดยไม่ต้องรอให้ถึงวัยรุ่น


สำหรับการจัดฟันในเด็กนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคน อาจจะมีความกังวลว่า ถ้าหากนำบุตรหลานเข้าพบทันตแพทย์เพื่อเข้ารับการจัดฟันในเด็ก จะส่งผลต่อพัฒนาการของบุตรหลานของท่านหรือไม่ ต้องบอกเลยว่า การพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการรักษาด้วยการจัดฟันในเด็กนั้น ไม่ส่งผลต่อพัฒนาการของบุตรหลานของท่านอย่างแน่นอน เพียงแต่บุตรหลานของท่านจะต้องให้ความร่วมมือในการจัดฟันด้วย เพื่อให้ผลการรักษาเป็นไปตามที่ทันตแพทย์ได้กำหนดไว้


ทั้งนี้ การจัดฟันในเด็กนั้น ยังช่วยปรับโครงสร้างของใบหน้าของบุตรหลานของท่าน ช่วยให้เข้าที่มากยิ่งขึ้น สำหรับการพูดคุยกับบุตรหลานของท่านให้พร้อมรับมือกับการจัดฟันในเด็ก พ่อแม่ผู้ปกครองควรพูดทำความเข้าใจกับบุตรหลานของท่าน ให้ใส่ใจในเรื่องของปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันมากยิ่งขึ้น ควรชี้ให้เห็นว่า ถ้าหากเราไม่ดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน และเกิดปัญหาฟัน จะมีผลอย่างไร แม้ว่าการจัดฟันในเด็ก อาจไม่ได้จำเป็นสำหรับเด็กทุกคน แต่จะดีกว่ามั้ย ถ้าหากพ่อแม่ผู้ปกครอง พาบุตรหลานของท่านไปตรวจกับทันตแพทย์จัดฟันตั้งแต่อายุยังน้อย และหากพบสัญญาณของความผิดปกติ ก็จะได้รีบแก้ไขตั้งแต่เนิ่นๆ ความผิดปกติหลายอย่างอาจจะยังสามารถแก้ไขได้ หากได้รับการรักษาตอนที่ยังเป็นเด็ก ซึ่งเป็นช่วงที่กระดูกขากรรไกรกำลังเจริญเติบโต เพราะถ้าหากรอให้เด็กโตจนเป็นวัยรุ่น แล้วค่อยมาเข้ารับการจัดฟัน ก็อาจทำให้ความผิดปกติหรือปัญหาฟันที่อาจแก้ไขได้ยิ่งแย่ลง ส่งผลให้การรักษามีความยุ่งยากขึ้นได้


หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจให้บุตรหลานของท่าน เข้ารับการรักษาด้วยการจัดฟันในเด็ก สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเพราะทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านสุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก คอยให้คำปรึกษาอย่างละเอียด พร้อมทั้งยังช่วยแนะนำวิธีการดูแลรักษาความสะอาดของช่องปากและฟันอย่างถูกวิธี เพื่อให้เด็กได้มีฟันที่แข็งแรง และเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีได้

9
หมอออนไลน์: เนื้องอกประสาทหู (Acoustic neuroma)

เนื้องอกประสาทหู (acoustic neuroma หรือ vestibular schwannoma) เป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายที่กำเนิดมาจากเส้นประสาทหู (ส่วนที่มีชื่อว่า vestibular nerve) ซึ่งอยู่ติดชิดกับสมองภายในกะโหลกศีรษะ (บริเวณ cerebello-pontine angle) ซึ่งพบได้ไม่บ่อยนัก แต่จัดว่าเป็นเนื้องอกที่พบได้บ่อยที่สุดของเนื้องอกของปลอกประสาท(nerve sheath)ภายในกะโหลกศีรษะ

เนื้องอกประสาทหูแบ่งเป็น 2 ชนิด ได้แก่ ชนิดไม่ทราบสาเหตุ (พบร้อยละ 95 ของเนื้องอกประสาทหู พบบ่อยในคนอายุ 40-60 ปี และมักเป็นข้างเดียว) และนิวโรไฟโบรมาโทซิสชนิดที่ 2 (neurofibromatosis type 2 หรือ bilateral vestibular schwannoma   ซึ่งพบร้อยละ 5 ของเนื้องอกประสาทหู พบบ่อยในคนอายุ 18-24 ปี วัยรุ่นตอนปลายและวัยหนุ่มสาวตอนต้น มักเป็น 2 ข้าง)


สาเหตุ

เนื้องอกประสาทหูชนิดไม่ทราบสาเหตุ เกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุชัดเจน พบว่าบางรายอาจมีประวัติได้รับรังสีขนาดสูงที่บริเวณศีรษะและคอมาก่อน และมีความเชื่อว่าการอยู่ในที่ที่มีเสียงดังเป็นระยะยาวนานอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงหนึ่งของโรคนี้

     ส่วนนิวโรไฟโบรมาโทซิสชนิดที่ 2  มีความสัมพันธ์กับความผิดปกติทางกรรมพันธุ์ ผู้ป่วยส่วนหนึ่งพบว่าเป็นโรคที่ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์แบบยีนเด่น (dominant gene) กล่าวคือ ถ้ามีบิดา หรือมารดา ท่านใดท่านหนึ่งเป็นโรคนี้ บุตรที่เกิดมามีโอกาสเป็นโรคนี้ถึงร้อยละ 50

อาการ

เนื้องอกประสาทหูมีลักษณะโตช้า ใช้เวลาเป็นปี ๆ กว่าจะเริ่มปรากฏอาการ อาการระยะแรก คือ หูตึง (ได้ยินเสียงได้น้อยลง) ซึ่งอาจค่อย ๆ เกิดขึ้นทีละน้อย หรือเกิดขึ้นฉับพลันก็ได้ ร่วมกับมีเสียงดังรบกวนในหู และอาจมีอาการเวียนศีรษะ บ้านหมุน รู้สึกโคลงเคลงร่วมด้วย

     อาการหูตึงจะเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่องเป็นแรมเดือนแรมปี จนกระทั่งก้อนเนื้องอกโตไปกดเบียดสมองและประสาทข้างเคียง ทำให้เกิดอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อใบหน้า (ซึ่งมักจะเป็นเพียงซีกเดียว) และมีอาการชาที่ใบหน้าซีกเดียวกัน บางรายอาจมีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน เดินเซ


ภาวะแทรกซ้อน

อาจทำให้เกิดความผิดปกติอย่างถาวร เช่น หูตึง มีเสียงดังรบกวนในหู เวียนศีรษะ บ้านหมุน เดินเซ กล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรงและชา 

     ที่สำคัญ คือ เนื้องอกที่โตขึ้นสามารถกดเบียดสมอง ทำให้เกิดภาวะความดันสูงในกะโหลกศีรษะ (มีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน) และอาจกดก้านสมองซึ่งควบคุมสัญญาณชีพ (เช่น การหายใจ การเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต) การกลืน และความรู้สึกตัว เป็นอันตรายต่อชีวิตได้

          สำหรับโรคนิวโรไฟโบรมาโทซิสชนิดที่ 2 นอกจากภาวะดังกล่าวแล้ว ยังอาจมีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น ต้อกระจก ตาเหล่ ชัก แขนขาอ่อนแรง และเกิดเนื้องอกชนิดอื่น ๆ (เช่น meningioma, glioma,  schwannoma, astrocytoma) ในสมอง ไขสันหลัง และส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย (เนื้องอกเหล่านี้ล้วนเป็นชนิดไม่ร้าย แต่ก็อาจจะกลายเป็นมะเร็งได้โดยไม่ทราบสาเหตุ แต่มีโอกาสที่พบได้น้อยมาก)


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ ดังนี้

     ในระยะแรก อาจตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติชัดเจน

     ในระยะหลัง (เมื่อก้อนเนื้องอกโตมากขึ้น) จะพบกล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง (ยักคิ้ว หลับตา เม้มปากไม่ได้) แบบอัมพาตเบลล์ ใบหน้าชา ปฏิกิริยาสะท้อนของกระจกตา (corneal reflex) ลดลง (ตรวจโดยใช้สำลีเขี่ยที่กระจกตา ปฏิกิริยาในการหลับตาจะช้ากว่าปกติ) อาจพบอาการเดินเซ

     แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการตรวจสมรรถภาพของการได้ยิน (audiometry) การถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

     ถ้าก้อนเล็กไม่มีการกดประสาทข้างเคียง ก็ให้การรักษาตามอาการ และติดตามอาการเปลี่ยนแปลงเป็นระยะ

            ถ้าก้อนเนื้องอกโตหรือกดประสาทหลายส่วน แพทย์จะทำการรักษาด้วยการผ่าตัดเอาเนื้องอกออก

            ถ้าพบในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีข้อห้ามในการผ่าตัด หรือมีขนาดเล็ก (เส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่า 3 ซม.) แพทย์จะทำการรักษาด้วยรังสี เช่น รังสีแกม (ซึ่งเรียกว่า "(gamma knife)", แสงโปรตอน (proton beam) เป็นต้น เพื่อยับยั้งไม่ให้เนื้องอกโตขึ้น ป้องกันการเกิดหูตึงถาวร และรักษาให้เส้นประสาทใบหน้าทำงานได้ปกติ (ป้องกันกล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง)

     ผลการรักษา หากได้รับการรักษาตั้งแต่แรกเริ่ม ส่วนใหญ่ได้ผลดี แต่ถ้าได้รับการรักษาเมื่อก้อนเนื้องอกโตมากหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงก็มักได้ผลน้อย หรือไม่อาจป้องกันความพิการที่เกิดขึ้นได้


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น อาการหูตึง มีเสียงดังในหู วิงเวียน เห็นบ้านหมุน ควรปรึกษาแพทย์

           เมื่อตรวจพบว่าเป็นเนื้องอกประสาทหู ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ 
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    หากมีอาการบ้านหมุน เดินเซหรือรู้สึกโคลงเคลง เวลาเดินควรใช้ไม้เท้าช่วยป้องกันไม่ให้หกล้ม, หลีกเลี่ยงการขับรถหรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น, ถ้าตื่นลุกเข้าห้องน้ำตอนกลางดึกควรเปิดไฟในห้องให้สว่าง

       
ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    สงสัยมีภาวะแทรกซ้อน เช่น มีอาการปวดศีรษะมาก อาเจียนมาก กลืนลำบาก ตามัว เดินเซ กล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง แขนขาชาหรืออ่อนแรง ชัก เป็นต้น
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

ยังไม่มีวิธีป้องกันที่ได้ผล เนื่องจากโรคนี้ส่วนใหญ่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด และส่วนน้อยเกิดจากความผิดปกติทางกรรมพันธุ์

         ควรป้องกันไม่ให้โรคลุกลาม โดยการไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษาแต่เนิ่น ๆ เมื่อสังเกตว่ามีอาการที่น่าสงสัย

ข้อแนะนำ

1. เนื้องอกประสาทหู แม้ว่าจะเป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้าย (ไม่ใช่มะเร็ง) แต่อาจค่อย ๆ โตขึ้นไปกดเบียดสมองและเส้นประสาทต่าง ๆ ทำให้เกิดความพิการทางหู ตา แขน ขา และการทรงตัว สูญเสียคุณภาพชีวิต เป็นภาระในการดูแลรักษา และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่มีอันตรายร้ายแรงต่อชีวิตได้ ดังนั้น หากมีอาการที่น่าสงสัย เช่น มีอาการหูตึง มีเสียงดังในหู วิงเวียน เห็นบ้านหมุน เดินเซ อย่างต่อเนื่องนานเป็นสัปดาห์ ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

       2. โรคนี้ในระยะแรกจะมีอาการคล้ายหูชั้นในอักเสบเฉียบพลัน แต่จะค่อย ๆ เป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ นานเป็นแรมเดือนแรมปี ดังนั้น ถ้าให้การดูแลรักษาแบบหูชั้นในอักเสบเฉียบพลัน 1-2 สัปดาห์แล้วไม่ดีขึ้น แพทย์จะทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุและให้การรักษาตามสาเหตุที่พบ

10
ข้อควรพิจารณาร่วมในการเลือกตำแหน่งติดตั้งผ้ากันไฟ


การเลือกตำแหน่งในการติดตั้งผ้ากันไฟเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้มั่นใจว่าผ้ากันไฟจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในยามฉุกเฉิน และยังสะดวกต่อการใช้งานและการบำรุงรักษาในระยะยาว นี่คือข้อควรพิจารณาร่วมที่สำคัญ:

1. การเข้าถึงและการมองเห็น (Accessibility & Visibility)

ง่ายต่อการเข้าถึง: ไม่ว่าจะเป็นผ้ากันไฟสำหรับงาน Hot Work หรือผ้าห่มดับเพลิงสำหรับดับไฟเบื้องต้น ตำแหน่งที่ติดตั้งต้องสามารถ เข้าถึงได้ง่ายและรวดเร็ว ไม่มีสิ่งกีดขวางใด ๆ มาบดบังทาง
มองเห็นได้ชัดเจน: ควรติดตั้งในจุดที่ มองเห็นได้ง่ายและชัดเจน จากระยะไกล เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถหาตำแหน่งของผ้าได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
ป้ายสัญลักษณ์: ติดตั้ง ป้ายสัญลักษณ์ "ผ้ากันไฟ" ที่ชัดเจนและเป็นสากล เหนือหรือข้างอุปกรณ์เสมอ ควรใช้ป้ายที่มีขนาดเหมาะสมและมีสีตัดกันเพื่อให้มองเห็นได้ง่าย


2. สภาพแวดล้อมและปัจจัยภายนอก (Environmental Factors)

ห่างจากแหล่งความชื้น: หลีกเลี่ยงการติดตั้งในบริเวณที่มีความชื้นสูง เช่น ใกล้ท่อรั่ว ซิงก์ล้างมือ หรือพื้นที่ที่มีการควบแน่นของไอน้ำ เพราะความชื้นสามารถทำให้เส้นใยผ้าเสื่อมสภาพ เกิดเชื้อรา และลดประสิทธิภาพ
หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง: รังสียูวีจากแสงแดดสามารถทำให้ผ้ากันไฟบางชนิด โดยเฉพาะผ้าใยแก้วที่ไม่มีการเคลือบป้องกัน UV, เสื่อมสภาพ เปราะ และสีซีดจางเร็วขึ้น หากจำเป็นต้องติดตั้งกลางแจ้ง ควรมีหลังคาหรือกล่องป้องกัน
ห่างจากสารเคมีและของเหลวรุนแรง: ติดตั้งให้พ้นจากบริเวณที่มีการใช้งานหรือจัดเก็บสารเคมี กรด ด่าง หรือน้ำมัน ที่อาจกระเด็นมาโดนผ้าและทำลายคุณสมบัติของผ้าได้
ป้องกันความเสียหายทางกายภาพ: เลือกตำแหน่งที่ผ้าจะไม่ถูกชนกระแทก ถูกลากถู ถูกของมีคมบาด หรือถูกกดทับจากอุปกรณ์หรือการจราจรในโรงงาน


3. ความสูงในการติดตั้ง (Mounting Height)

เหมาะสมกับผู้ใช้งาน:
สำหรับ Fire Blanket (ผ้าห่มดับเพลิง): ควรติดตั้งในระดับความสูงที่เหมาะสมที่ ทุกคนในบริเวณนั้นสามารถหยิบถึงได้สะดวก เช่น ระดับอกหรือสายตา ไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างรวดเร็วในสถานการณ์ฉุกเฉิน
สำหรับ Welding Blanket (ผ้าม่าน/ฉากกั้น): ความสูงควรเพียงพอที่จะกั้นประกายไฟและสะเก็ดไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาจต้องติดตั้งสูงถึงเพดาน หรือสูงกว่าจุดสูงสุดที่สะเก็ดไฟสามารถกระเด็นถึงได้


4. การบูรณาการกับแผนป้องกันอัคคีภัย (Integration with Fire Safety Plan)

ใกล้กับอุปกรณ์ดับเพลิงอื่น ๆ: ควรติดตั้งผ้ากันไฟในบริเวณใกล้เคียงกับถังดับเพลิง หรือจุดเรียกสัญญาณเตือนไฟไหม้ เพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของระบบป้องกันอัคคีภัยแบบองค์รวม
สอดคล้องกับแผน Hot Work Permit: หากเป็นผ้ากันไฟสำหรับงาน Hot Work ตำแหน่งการติดตั้งควรสอดคล้องกับข้อกำหนดในใบอนุญาตทำงานที่เกี่ยวกับความร้อน (Hot Work Permit) ซึ่งจะระบุมาตรการป้องกันที่จำเป็นในแต่ละพื้นที่
เส้นทางหนีไฟ: ไม่ควรติดตั้งผ้ากันไฟในลักษณะที่กีดขวางเส้นทางหนีไฟหรือทางออกฉุกเฉิน


5. การบำรุงรักษาและการตรวจสอบ (Maintenance & Inspection Access)

ง่ายต่อการตรวจสอบ: ตำแหน่งที่ติดตั้งควรทำให้สามารถเข้าถึงผ้ากันไฟได้ง่าย เพื่อการตรวจสอบสภาพผ้าเป็นประจำ (มองหารอยฉีกขาด, รู, รอยไหม้, การเสื่อมสภาพของเนื้อผ้า) และการทำความสะอาด

ง่ายต่อการเปลี่ยน: เมื่อผ้าเสื่อมสภาพหรือเสียหาย ตำแหน่งที่ติดตั้งควรเอื้อต่อการถอดเปลี่ยนผ้าใหม่ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
การพิจารณาปัจจัยเหล่านี้อย่างถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจเลือกตำแหน่งติดตั้ง จะช่วยให้ผ้ากันไฟเป็นแนวป้องกันแรกที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษาความปลอดภัยในโรงงานของคุณครับ

11
การจัดฟันเด็ก ลดโอกาสการเกิดฟันล้มได้หรือไม่

ปัญหาฟันล้ม เป็นการเคลื่อนที่ของฟันที่ล้มหรือเอียงไปข้างใดข้างหนึ่งเพื่อหาความสมดุลหรือเพื่อยึดเกาะฟันซี่ที่อยู่ข้างเคียงหรือที่เราเรียกกันว่าฟันเกนั่นเอง มักจะพบได้ในฟันซี่ที่อยู่ใกล้ ๆ ฟันที่ถูกถอนออกไปจนเกิดช่องว่างระหว่างฟันและไม่มีฟันมาทดแทน ซึ่งโดยปกติแล้วฟันของเรานั้น มีการเคลื่อนตัวอยู่ตลอดเวลา แต่จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล และอาการฟันล้มแหล่านี้จะทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา เช่น การบดเคี้ยวอาหารไม่ลงตามแนวแกนของฟัน เกิดปัญหาการสบกระแทกของฟัน หรือลามไปจนถึงอาจก่อให้เกิดโรคปริทันต์ตามมาได้ ซึ่งปัญหาฟันล้มนั้น สามารถเกิดขึ้นในเด็กได้เช่นเดียวกัน หากเด็กมีอาการฟันผุและเกิดสูญเสียฟันไป ไม่ว่าจะเป็นในช่วงของฟันน้ำนมหรือฟันแท้ ก็ทำให้เกิดฟันล้มได้ เพราะฉะนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองก็ควรที่จะดูแลรักษาสุขภาพช่องปากและฟันของเด็กให้ดี หรือควรที่จะสอนให้เด็กแปรงฟันอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาเกี่ยวกับฟันของเด็กได้ เพื่อที่จะได้มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีตามมา

ซึ่งปัญหาฟันล้มในเด็กนั้น สามารถเกิดขึ้นได้ เพราะถ้าเมื่อไหร่เด็กเกิดช่องว่างจากการถอนฟันไปก่อนวัยอันควร ในเด็กที่อายุยังไม่ถึง 12 ปี หรือในเด็กที่ฟันกรามน้อยยังไม่ขึ้น ทันตแพทย์จะแนะนำให้ใส่เครื่องมือกันฟันล้ม หรือเครื่องมือกันที่ การใส่ก็ไม่ยุ่งยากและไม่เจ็บ โดยในครั้งแรกทันตแพทย์จะลองแบนด์ ซึ่งมีลักษณะเหมือนแหวนสวมไปที่ฟันที่จะใช้เป็นหลักเพื่อหาขนาดที่พอดีกับฟันซี่นั้นๆก่อน

จากนั้นจึงพิมพ์ปากเพื่อจำลองแบบในปากออกมาใช้ในการทำเครื่องมืออีกที แต่การเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ก็สามารถป้องกันการเกิดฟันล้มได้เช่นเดียวกัน เพราะถือว่าการจัดฟันเป็นการรักษาที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ดีเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นฟันล้ม ฟันเอียง ฟันเคลื่อนหรือฟันเก เป็นต้น เพราะการจัดฟันเป็นการใช้เหล็กหรือลวดดึงฟันให้กลับมาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมหรือตำแหน่งเดิม ซึ่งการจัดฟันก็สามรถจัดได้หลายวิธีเลย แต่การจัดฟันในเด็กที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาฟันล้มในเด็ก ก็มีอยู่ 2 วิธีหลักๆ คือการสวมใส่เครื่องมือการจัดฟันแบบ EF Line และการจัดฟันแบบใส่เหล็กจัดฟัน การสวมใส่เครื่องมือ EF Line นั้น สามารถแก้ไขปัญหาฟันล่างสบคร่อมฟันบน ถ้าไม่ทำการรักษาจะทำให้ขากรรไกรเจริญผิดปกติ เช่น ขากรรไกรบนถูกจำกัดการเจริญเติบโตในขณะที่ขากรรไกรล่างเติบโตได้ ทำให้เกิดลักษณะใบหน้าเว้า และอาจทำให้เกิดความผิดปกติที่ข้อต่อขากรรไกรได้


ซึ่งอาจจะส่งผลตอการขึ้นของฟันแท้ด้วย และการจัดฟันในเด็กโดยการจัดฟันแบบสวมใส่เหล็กจัดฟัน ก็สามารถแก้ไขปัญหาฟันล้มได้อย่าง 100 % เพราะเครื่องมือการจัดฟัน จะทำให้ฟันเคลื่อนไปยังตำแหน่งที่ถูกต้องได้ ดังนั้น การจัดฟันในเด็ก ก็สามารถแก้ไขปัญหาฟันล้มในเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพเลยทีเดียว แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรหมั่นดูแลความสะอาดของสุขภาพฟันของเด็กให้มากเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันปัญหาภายในช่องปากเบื้องต้นที่เราย่อมรู้กันดี เพราะการดูแลความสะอาดถือเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ สามรถตัดปัญหาอื่น ๆ ที่จะตามมาได้ เช่น ฟันผุจนต้องถอนฟันและนำมาซึ่งปัญหาของฟันล้ม ฟันเอียงได้นั่นเอง

หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ก็สามารถพาเด็กๆเข้ามาปรึกษากับทันตแพทย์ของทางคลินิกได้ เพราะเรามีทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ยินดีให้คำปรึกษาทั้งเรื่องปัญหาฟันของเด็กและวิธีการทำความสะอาดช่องปากและฟันให้เด็ก เพื่อที่เด็กจะได้มีความเข้าใจในการดูแลรักษาความสะอาดฟัน และจะได้มีฟันที่แข็งแรง มีรอยยิ้มที่สดใสมั่นใจตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อที่จะได้เป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่ มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

12
รถไฟฟ้า ev เทสลา Tesla Model 3 Performance AWD ปี 2024
2,199,000 บาท

เทสลา Tesla Model 3 Performance AWD ปี 2024
Tesla Model 3 Performance AWD เป็นรถซีดานไฟฟ้า Model 3 ที่มีการปรับโฉม คุณสามารถใช้สมาร์ทโฟนเป็นกุญแจรถ และสามารถเข้าถึงระบบควบคุมของผู้ขับขี่ทั้งหมดบนหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 15.4 นิ้วที่ติดตั้งตรงกลาง หลังคาที่เป็นกระจกทั้งหมดที่เริ่มจากด้านหน้าไปถึงด้านหลังซึ่งจะช่วยสร้างความรู้สึกที่โปร่งและโล่งสบายจากทุกที่นั่ง สามารถวิ่งได้ 528 กม. (ตามมาตรฐาน WLTP) และอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.1 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 261 กม./ชม.

ข้อมูลทั่วไป

แบรนด์                 Tesla
รุ่น                      เทสลา Tesla Model 3 Performance AWD ปี 2024
ประเภทรถ             รถเก๋ง 4 ประตู,Electric - EV
ปีที่เปิดตัว              2024
ราคา                    2,199,000 บาท


สเปคละเอียด

มอเตอร์ไฟฟ้า                     ขับเคลื่อนสี่ล้อมอเตอร์คู่ 528 กม.

กำลังเครื่องยนต์ (แรงม้า)       แรงม้า
ระบบเกียร์                         เกียร์อัตโนมัติ
รูปแบบเกียร์
ระบบเบรค ABS                     มี
ชนิดแบตเตอรี่                     ไฟฟ้า
ความจุแบตเตอรี่                    N/A
ระยะทางวิ่ง/การชาร์จ 1 ครั้ง     528 กิโลเมตร (WLTP)
น้ำหนักตัวรถ                       1,861 กก.
ประเภทยางรถยนต์                     -
ขนาดล้อ (นิ้ว)                   ล้ออัลลอย (Warp ขนาด 20 นิ้ว)
ระบบขับเคลื่อน                  ขับเคลื่อนสี่ล้อ (Dual Motor All-Wheel Drive)

ดีไซน์

ภายนอก
ระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ต
ไฟหน้า LED
ไฟท้าย LED
หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ
ล้ออัลลอย (Warp ขนาด 20 นิ้ว)

ภายใน
เบาะคนขับปรับสูง-ต่ำได้
ระบบนำทาง (Navigator)
ปลั๊กไฟ 12 โวลท์
พวงมาลัยหุ้มหนัง
พวงมาลัยปรับสูง-ต่ำได้
กระจกมองหลังตัดแสง (อัตโนมัติ)
ระบบปรับรูปแบบการขับขี่ (เพิ่มโหมดปรับแต่งเอง และ โหมด beta)


ความปลอดภัย
อุปกรณ์ความปลอดภัย
ตัวถังนิรภัย
ดิสก์เบรก 4 ล้อ
เซ็นทรัลล็อค
ไฟเบรกดวงที่ 3
เข็มขัดนิรภัย
พวงมาลัยยุบตัวได้
กระจกนิรภัย (แบบลดเสียงรบกวน Acoustic Glass)
คานเหล็กเสริมนิรภัย
กล้อง (ด้านหลัง ด้านข้าง และด้านหน้าแบบ 360? มอบทัศนวิสัยสูงสุด)

13
วิธีปฏิบัติการให้อาหารสายยางผู้ป่วย ทางจมูก กับหน้าท้อง แตกต่างกันอย่างไร

การให้อาหารทางสายยาง คือ การที่ทำให้อาหารที่ถูกผลิตในรูปแบบของเหลวไหลผ่านทางสายยางเข้าสู่กระเพาะอาหารโดยตรง เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารต่างๆ และน้ำ ครบถ้วนเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เหมือนคนปกติทั่วไป

โดยการให้อาหารทางสายยางนั้น จะใช้ในผู้ป่วยที่ไม่สามารถรับประทานอาหารได้เองหรือมีปัญหาในการกลืนกิน

ตามหลักการแล้วอาหารทางสายยางจะต้องมีอาหารครบตามหลักโภชนาการทั้ง 5 หมู่ คือ คาร์โบไฮเดรต (ข้าว , แป้ง , น้ำตาล) โปรตีน (เนื้อสัตว์ , ไข่ , นม , ถั่ว) ไขมัน (น้ำมัน , ไขมันสัตว์) เกลือแร่ และวิตามิน (ผักผลไม้ต่างๆ) โดยต้องมีสัดส่วนที่เป็นมาตรฐานที่ร่างกายจำเป็ต้องได้รับในแต่ละวัน คือ คาร์โบไฮเดรต 40-50% โปรตีน 20-30% ไขมัน 10-20% เกลือแร่ และวิตามิน 10%

ทางด้านอาหารในกลุ่มโรงพยาบาลชั้นนำภายใต้มาตรฐานระดับโลก จึงทำให้เราคำนึงถึงประโยชน์ที่ผู้ป่วยเหมาะสม และปริมาณที่เป็นมาตรฐานตามหลักการแพทย์อย่างเข้มงวด สูตรอาหารปั่นผสมนั้นจะมีความหลากหลายที่เหมาะสมกับผู้ป่วยในแต่ละบุคคล

แต่ในวันนี้เราจะขอมาบอกรายละเอียดเล็กๆน้อยๆถึงความแตกต่างที่ผู้ใกล้ชิดผู้ป่วยควรจะได้ทราบเป็นอย่างยิ่ง นั่นคือ ตำแหน่งในการให้อาหารทางสายยางของผู้ป่วย ที่มีความแตกต่างกัน และวิธีปฏิบัติพื้นฐาน เพื่อให้ผู้ป่วยที่ท่านรักนั้น แข็งแรงสมบูรณ์อีกครั้งด้วยอาหารที่มีคุณภาพต่อร่างกายย่างแท้จริง


วิธีปฏิบัติการให้อาหารทางจมูก และ การให้อาหารทางสายที่ใส่ผ่านหน้าท้อง ?

   
การให้อาหารสายยางทางจมูก ควรปฏิบัติดังต่อไปนี้

– บอกผู้ป่วยให้ทราบทุกครั้งก่อนที่จะทำการให้อาหาร

– ถ้าหากว่าผู้ป่วยยังสามารถลุกนั่งได้ควรให้อยู่ในท่านนั่ง แต่หากว่าไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ควรจัดผู้ป่วยให้อยู่ในท่าศีรษะสูง หรือกึ่งนั่งกึ่งนอน หากว่าเป็นผู้ป่วยในรายที่ทำการเจาะคอ ควรดูดเสมหะออกก่อนให้เรียบร้อยทุกครั้งก่อนที่จะเริ่มทำการให้อาหาร

– ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งและควรเช็ดมือให้แห้งด้วยผ้าสะอาด เพราะความสะอาดคือสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ในการให้อาหารผู้ป่วยทางสายยาง

– เช็ดปลายสายยางด้วยสำลีชุบแอลกอฮอล์ให้สะอาด และต้องดูให้สายยางอยู่ในตำแหน่งเดิม แนะนำว่าควรทำตำแหน่งไว้ที่สายยาง

– ทดลองลูกสูบว่าสายยางอยู่ในกระเพาะอาหารหรือไม่ ถ้าสายยางเข้าที่แล้วเมื่อดูดจะมีน้ำย่อยออกมา

– ให้ทำการดูดอาหารที่ค้างอยู่ในส่วนของกระเพาะอาหารออกมา ถ้าดูดออกมามีมากกว่า 50 cc. ให้ใส่กลับเข้าไปแล้วรอเวลาประมาณ 1 ชม. และให้ลองดูดใหม่อีกครั้ง หากว่ายังมีอาหารค้างมากเหมือนเดิม ให้งดอาหารมื้อนั้น เนื่องจากระบบย่อยอาหารอาจจะทำงานได้ไม่ดี

– ให้พับสายยาง แล้วเริ่มเทอาหารลงไป และควรปลดพับสายยางช้าๆเพื่อให้อาหารไหลผ่านเข้าไปอย่างช้าๆ โดยกระบอกใส่อาหารจะต้องอยู่ในส่วนที่สูงกว่าหน้าอก คอยเติมอาหารต่อเนื่องเพื่อไม่ให้เกิดลมเข้าไปในพื้นที่ว่าง คอยสังเกตอาการผิดปกติไปด้วย เช่น ผู้ป่วยสำลัก หรืออาเจียน ให้หยุดในทันที

– เตรียมยาหลังอาหารให้พร้อม ถ้าเป็นยาเม็ดให้บดละเอียด และละลายน้ำให้เข้ากัน เทใส่กระบอกแก้งหลังจากให้อาหาร พร้อมตามด้วยน้ำประมาณ 50 CC

– เหมื่อเสร็จแล้วให้ยกปลายสายยางให้สูง เพื่อให้อาหารที่ยังติดค้างไหลลงกระเพาะให้หมด แล้วปิดจุกยางให้แน่น ทำความสะอาดปลายสายยางอีกครั้งด้วยสำรีชุบแอลกอฮอล์

– เมี่อทำทุกอย่างเสร็จหมดแล้วให้ผู้ป่วยอยู่ในท่า นอนหงานศีรษะสูง 60 องศา ประมาณ 30 นาที เพื่อป้องกันการไหลย้อยกลับของอาหาร

   
การให้อาหารสายยางทางหน้าท้อง ควรปฏิบัติดังต่อไปนี้

– ล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง

– เตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างให้พร้อมตามหลักการรักษา

– บอกให้ผู้ป่วยทราบ

– จัดท่านอนให้ผู้ป่วยนอนหงายศีรษะสูง อย่างน้อย 30-60 องศา

– เปิดจุกให้อาหาร แล้วเช็ดรูเปิดด้านนอกด้วยสำลีชุบน้ำต้มสุก

– สวมปลาย Asepto Syringe เข้ากับรูเปิดของสายให้อาหารให้แน่น

– เปิด clamp สาย gastrostomy ดูดเช็คอาหารตกค้าง

– พับสาย gastrostomy แล้วปลด Asepto Syringe ออก

– สวมปลาย Asepto Syringe เข้ากับรูของสายที่ทำการพับอยู่

– เริ่มให้อาหารปั่นผสมอย่างช้าๆ และเติมอย่างต่อเนื่องเพื่อลดการเข้าของอากาศ

– เมื่ออาหารใกล้จะหมด ให้ใช้ไซริงค์รินน้ำประมาณ 30-50 มล.

– เมื่อเสร็จแล้วให้พับสาย gastrostomy แล้วปลด Asepto Syringe ปิด clamp สาย gastrostomy ให้แน่น

– ปิดจุกปลายสาย จัดท่านอนให้ผู้ป่วยนอนตะแคงขวาศีรษะสูง ประมาณ 1 ชั่วโมง เป็นอันเสร็จสิ้น

14
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


15
ปล่อยรถราคาพิเศษ Bmw z4 Roadster S Drive 20i Convertible ปี 2019

BMW Z4 sDrive20i Roadster Convertible ปี 2019 มีเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร TwinPower Turbo ให้กำลัง 197 แรงม้า 320 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ส่งกำลังสู่ล้อหลัง. มีระบบขับเคลื่อนล้อหลัง และมีหลังคาแบบเปิดประทุน.

หมายเหตุ : รายละเอียดของรถยนตอ์าจมีการเปลี่ยนแปลงภายหลัง

รถผู้บริหาร รถทดลองขับ ไมล์น้อย ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

โปรโมชั่นพิเศษ
ตั้งแต่ 17 มี.ค. - 31 มี.ค. 2568
ซื้อเงินสด (ไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม)

ราคาพิเศษ 2,350,000 บาท

สนใจสอบถามรายละเอียดกดลิ้ง https://www.checkraka.com/flashdeal/car

ข้อมูลทางเทคนิคเพิ่มเติม:
เครื่องยนต์: 2.0 ลิตร 4 สูบ TwinPower Turbo
แรงม้า: 197 แรงม้า
แรงบิด: 320 นิวตันเมตร
เกียร์: อัตโนมัติ 8 สปีด
ระบบขับเคลื่อน: ล้อหลัง
ประเภท: รถเก๋งเปิดประทุน

คุณสมบัติอื่นๆ:
มีระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (DSC)
มีระบบช่วยควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง (CBC)
มีระบบช่วยเพิ่มแรงเบรกอัตโนมัติ
มีระบบเบรกดิสก์ 4 ล้อ (พร้อมช่องระบายความร้อน)
มีระบบกันขโมย
มีระบบเซ็นทรัลล็อค
มีระบบปรับระยะส่องไฟหน้า (ปรับไฟสูงอัตโนมัติ)
มีระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ (เช่น ระบบยาง Run flat)
มีระบบ Cruise Control (พร้อมระบบเบรก)



หน้า: [1] 2 3 ... 57